ข้อเท็จจริง ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ในการไปดวงจันทร์ครั้งแรก

อะพอลโล 11 เป็นยานอวกาศลำแรกที่ลงจอดบนผิวของดวงจันทร์สำเร็จขององค์การนาซา อะพอลโล 11 ถูกส่งขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศโดยจรวด แซเทิร์น 5 ที่ฐานยิงจรวดที่แหลมเคเนดี รัฐฟลอริดา เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1969 อีก 3 วันต่อมาก็สามารถลงจอดบริเวณ "ทะเลแห่งความเงียบสงบ” (Mare Tranquilitatis) ได้สำเร็จ ลูกเรือในยานอวกาศประกอบด้วยนีล อาร์มสตรอง ผู้บังคับการ, เอดวิน อัลดริน และไมเคิล คอลลินส์



อาร์มสตรองเป็นมนุษย์คนแรกที่ลงมาประทับรอยเท้าบนดวงจันทร์ ตามมาด้วยอัลดริน ทั้งสองได้ติดตั้งเครื่องวัดแผ่นดินไหว กระจกเลเซอร์เครื่องวัด "ลมสุริยะ" และเก็บตัวอย่างหินและดิน 20.8 กิโลกรัม นำกลับโลก รวมเวลาอยู่บนดวงจันทร์ 21 ชั่วโมง 36 นาที ใช้เวลานับตั้งแต่ออกเดินทางจนกลับถึงโลก 195 ชั่วโมง 18 นาที 35 วินาที กลับถึงโลกในวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ. 1969 ยานอวกาศอะพอลโล 11 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการอะพอลโล ซึ่งเกิดจากความปรารถนาของประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี ที่ต้องการส่งมนุษย์ไปยังดวงจันทร์ให้สำเร็จ และกลับมายังโลกอย่างปลอดภัย



แต่ในวันนี้เราจะมาพูดถึง 7 ข้อเท็จจริง ที่ต้องพบเจอบนดวงจันทร์ ซึ่งเชื่อได้ว่าไม่มีใครเคยรู้มาก่อนอย่างแน่นอน เพราะ น้อยคนมากๆ ที่จะได้สัมผัสดวงจันทร์ และนี่คือคำบอกเล่าต่างๆ ของเหล่านักบินอวกาศที่เคยไปสัมผัสมาแล้ว ส่วนจะมีอะไรบ้างลองไปอ่านกันดีกว่าครับ...



1. กลิ่นบนดวงจันทร์
มีนักวทิยาศาสตร์ และศึกษาเรื่งอวกาศจำนวนมากอยากทราบเหลือเกินว่าพื้นผิวดวงจันทร์เป็นอย่างไร โดยเหล่านักบินอวกาศได้บอกว่า ผิวชองดวงจันทร์นั้นแข็งมากๆ และมีความเหนียวแน่นมาก แต่ที่น่าตกใจคือ ดวงจันทร์มีกลิ่นเฉพาะตัว
โดยกลิ่นดวงจันทร์นั้นได้ติดมากับชุดนักบินอวกาศ ของ Neil และ Buzz หลวงจากสำรวจดวงจันทร์เรียบร้อย โดยกลิ่นดวงจันทร์นั้นจะคล้ายๆกับ ขี้เถ้า เหมือนดอกไม้ไฟ หรือกลิ่นอากาศหลังจุดดอกไม้ไฟนั่นเอง



2. ความจริงคือ ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. ต้องการโจมตีโซเวียตมากกว่าบุกอวกาศ
เป็นคำพูดที่ถูกบันทึกจากสื่อทั่วโลก และเป็นคำพูดประกาศของ ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนาดี ว่าการไปบุกดวงจันทร์นี้ คือการได้รับชัยชนะ และมีพลังอำนาจเหลือประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะ โซเวียต
เนื่องจากว่า โครงการสำรวจดวงจันทร์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ สหภาพโซเวียตปล่อยดาวเทียม Sputnik 1 ขึ้นสู่วงโคจรโลก สหรัฐอเมริกาจึงได้ส่ง 3 นักบิน ไปสำรวจดวงจันทร์ เพราะ นี่คือทางเดียวที่จะชนะสงครามเย็นกับสหภาพโซเวียตได้



3. สำรวจอวกาศ แค่การแข่งขัน ชิงความเป็นใหญ่ของมหาอำนาจ

เนื่องจากว่า ในช่วงปี 1957 ถือว่าเป็นช่วงก้าวกระโดดของเหล่ามหาอำนาจ สหภาพโซเวียต และ สหรัฐอเมริกา พยายามต่อสู้ช่วงชิงความเป็นใหญ่ในสายตาโลก โดยการส่งนักสำรวจสู่นอกโลกให้ได้สำเร็จ และท้าทายกันว่าใครจะขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ได้เป็นคนแรก จึงได้เกิดโครงการ อะพอลโล 11 ขึ้นมา เพื่อมุ่งเน้นเอาชนะคู่แข่งเรื่องเทคโนโลยี และสหรัฐสามารถทำสำเร็จเป็นประเทศแรก



4. โครงการ อะพอลโล เกือบไม่สำเร็จเพราะ นักเคลื่อนไหวได้สิทธิ์
ก่อนที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกา จะเริ่มภาระกิจ อะพอลโล11 ได้มีกลุ่มนักเคลื่อนไหวนำโดย Ralph Abernathy ออกมาต่อต้านอย่างรุนแรง เนื่องจากว่าเงินที่นำไปลงทุนในโครงการนี้ เป็นจำนวนเงินที่มหาศาลมากๆ เป็นเงินที่สามารถพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าได้หลายสิบปี
แต่ผลสุดท้ายทางด้านของ Thomas Paine ผู้ดูแลระบบของ NASA ได้ออกมาต่อรองกับ Ralph Abernathy ว่าจะให้ที่นั่งระดับ VIP ในการปล่อยยาน Apollo 11 จึงทำให้กลุ่มนักเคลื่อนไหว ยอมอ่อนให้กับโครงการนี้

5. Buzz Aldrin คือคนแรกบนโลกที่ทำพิธีทางศาสนาบนดวงจันทร์
ในขณะที่ Apollo 11 ลงจอดบนดวงจันทร์ ในวันที่ 20 ก.ค. 1969 Buzz Aldrin มีสิ่งที่จำเป็นต้องทำให้ได้คือ พิธีทางคริสต์ศาสนา ก่อนที่จะเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์ ตามหลักศาสนาของเขา
ทำให้ Buzz Aldrin คือคนแรกบนโลกใบนี้ที่ทำพิธีกรรมทางศาสนาบนดวงจันทร์



6. เชื้อโรคในอวกาศ
หลังจากที่ นักบินทั้ง 3 กลับมาจากดวงจันทร์ สิ่งแรกที่เขาต้องทำคือ ถูกรัฐบาลกักตัวในทันที่ก่อนจะได้เหยียบพื้นโลก เนื่องจากว่าไม่เคยมีมนุษย์คนใดเคยไปเหยียบดวงจันทร์มาก่อน ทำให้เหล่านักวิทยาศาสตร์เป็นกังวลอย่างมากเรื่องเชื้อโรคต่างๆ ที่อาจจะติดนักบินทั้ง 3 คนลงมา
โดยนักบินทั้ง 3 คน ถูกกักตัวตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. ถึงวันที่ 10 ส.ค. 1969 ก่อนจะถูกปล่อยตัวออกมาใช้ชีวิตปกติ



7. ประธานาธิบดี Nixon กังวลกับภารกิจนี้มาก
ภารกิจนี้ เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของ 2 ประธานาธิบดี ซึ่งผู้เริ่มต้นภารกิจ คือ ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนาดี และผู้ที่อยู่ปิดภารกิจคือ ประธานาธิบดี Nixon เพราะในขณะที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน เคนาดี ถูกลอบสังหาร ทำให้หลายคนเชื่อว่าที่เคนาดี ถูกลอบสังหารนั้น เป็นเหตุมากจาก ภารกิจอะพอลโล 11 ประธานาธิบดี Nixon จึงได้มีความกังวลสูงมาก เพราะถ้าภารกิจนี้ไม่สำเร็จ รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบด้วยเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว



อ้างอิงข้อมูลจาก - https://www.history.com/news/moon-landing-apollo-11-facts