ภรรยาใหญ่ ‘ในบ้าน’ สามีใหญ่ ‘นอกบ้าน’ ถ้อยทีถ้อยอาศัย เพื่อชีวิตคู่ที่มีความสุข

ภ ร ร ย า ใหญ่’ในบ้าน’ สามีใหญ่ ‘นอกบ้าน’ ถ้อยทีถ้อยอาศัย เพื่อชีวิตคู่ที่มีความสุข

เป็นอีกหนึ่งบทความที่ให้ข้อคิดดีๆ โดยมีพระท่านนึงกล่าวว่า เรื่องนี้สำคัญเลยคุณโยม ผู้หญิงจะเป็นใหญ่หรือไม่ใหญ่อาตมาไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ อย่าได้กล้าหือเชียวนะ ไม่อย่างนั้นหนีเอาชีวิตกันแทบไม่ทันเลยล่ะ

อาตมาได้พบและได้คุยกับคุณโยมผู้ชายหลายท่าน ซึ่งต่างก็เล่าเป็นเสียงเดียวกันว่า โดนภรรยาที่บ้านทำรังแกอยู่ตลอดเวลา แรกๆ อาตมาก็แปลกใจว่า คุณโยมเป็นผู้ชายแท้ๆ เป็นหัวหน้าครอบครัวแท้ๆ ทำไมถึงยอมให้ภรร ย า ซึ่งเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ รังแกเอาได้ คุยไปคุยมาถึงได้รู้ว่า บรรดาคุณโยมภรร ย า ทั้งหลายมีของศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมือ นั่นคือ “บัญชีการเงิน” ทั้งหมด

หลายคนที่โดนแซวว่ากลัวเมีย ก็จะหาคำพูดแก้ตัวกันได้อย่างสมเหตุสมผลว่า “ไม่ได้กลัว แต่เกรงใจ” เหมือนอย่างคุณโยมบางคู่ คุณโยมแม่บ้านเวลาจะคุยกับคุณโยมพ่อบ้านต้องคลานเข่าเข้าไปหาเชียวนะ แล้วพูดว่า “ออกมาจากใต้เตียงเดี๋ยวนี้นะ หนีเข้าไปทำอะไร” เห็นไหมคุณโยม…ไม่ได้กลัวเมียแต่…Safety First

ผู้หญิงสมัยนี้เก่งนะคุณโยม โดยเฉพาะเรื่องการทำงานนอกบ้าน บางคนเก่งมากเสียจนหน้าที่การงาน และเงินเดือนเยอะกว่าสามีตัวเองหลายเท่า เป็นใหญ่อยู่นอกบ้านแล้ว ยังกลับมาเป็นใหญ่ในบ้าน ด้วยการคุมการเงิน การดูแลบ้าน การดูแลลูกอีก จนคุณโยมผู้ชายอดน้อยเนื้อต่ำใจถามตัวเองไม่ได้ว่า “แล้วฉันจะเกิดมาทำไมเนี่ย”

อย่าน้อยอกน้อยใจไปคุณโยมผู้ชายทั้งหลาย อาตมาอยากให้คุณโยมมองในแง่ดีที่ว่า เราโชคดีที่ได้ภรร ย า เก่ง การมีภรร ย า ดี ภรร ย า เก่งเป็นการสะท้อนถึงความสามารถในการเลือกคบคนของคุณโยมได้เป็นอย่างดี และยังเป็นการเสริมบารมีคุณโยมไปในตัวด้วย

เหมือนอย่างสมัยโบราณที่ข้าราชการจะหาภรร ย า สักคนก็มักจะหาภรร ย า ที่เก่งเรื่องงานบ้านงานเรือน เพราะสิ่งนี้จะช่วยเสริมบารมี เสริมหน้าตาทางสังคมได้ด้วย

คุณโยมผู้ชายสมัยนี้ก็คงคิดไม่ต่างกันว่า การมีภรร ย า เก่งก็เชิดหน้าชูตาได้ แต่พอเอาเข้าจริง การมีภรร ย าเก่ง หรือเก่งกว่ากลับกลายเป็นการลดคุณค่าความเป็นชายของตัวเองลง ยิ่งถ้าภรร ย า ดุเข้าไปอีก ก็กลายเป็นว่าอยู่ใต้อาณัติภรร ย า ไปโดย ป ริ ย า ย

คุณโยมสามีภรร ย า หลายคู่มีปัญหากัน เพราะเรื่องอำนาจภายในบ้านเป็นเหตุ ตัวสามีรับไม่ได้ที่ภรร ย าเก่งกว่า ภรร ย า ก็ยอมไม่ได้ที่จะให้สามีเป็นช้างเท้าหน้าเพียงคนเดียว ต่างคนต่างทำเป็นใหญ่ใส่กัน ไม่ยอมกัน สุดท้ายก็ทะเลาะกันเป็นเรื่องราวใหญ่โตโดยไม่รู้ตัว

ปัญหานี้แก้ได้ด้วยการลดทิฐิ คุณโยมผู้ชายมักมีทิฐิว่าตัวเองต้องเป็น เ พ ศ ผู้นำ ต้องออกคำสั่ง แต่เมื่อโดน เ พ ศ หญิงที่ควรจะอ่อนแอกว่ามาออกคำสั่งแทน มาอยู่เหนือตัวเองก็รับไม่ได้

ในขณะที่คุณโยมผู้หญิงที่พยายามเรียกร้องความเท่าเทียมกับคุณโยมผู้ชาย ก็ พ ย า ย า ม แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ จนบางครั้งความสามารถนั้นเกินเลยไปจนกลายเป็นการข่มผู้อื่นไปโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน

ดังนั้นคุณโยมทั้งสองฝ่ายจะต้องลดทิฐิในเรื่องอำนาจ และเติมเต็มเรื่องการให้เกียรติกัน อย่าคิดว่าใครต้องใหญ่กว่าใครในบ้าน แต่ให้คิดว่าชีวิตคู่จะมีความสุขได้ก็ต้องเดินไปพร้อมๆ กัน ไม่มีใครก้าวไปก่อนใคร ไม่มีใครวิ่งแซงใคร และต้องให้เกียรติกันในการตัดสินใจ ตัดสินปัญหาหรือรับผิดชอบสิ่งต่างๆ

คุณโยมลองหาวิธีแบ่งกันง่ายๆ ดูก็ได้ เช่นว่า คุณโยมผู้หญิงรับผิดชอบหน้าที่ในการดูแลและเป็นใหญ่ในบ้านเพื่อดูแลเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทั่วไป ที่ผู้หญิงสามารถดูแลได้ ส่วนคุณโยมผู้ชายก็รับผิดชอบเรื่องการตัดสินใจใหญ่ๆ เรื่องการเงิน การงาน การเป็นผู้นำ เป็นที่พึ่งพิง

ชีวิตคู่จะอยู่ได้อย่างมีความสุขต้องใช้ความถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่ใช่การนำของใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่เพราะการเชื่อฟังคนใดคนหนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเป็นการนำและการตามไปพร้อมๆ กัน…เจริญพร