เกิดมาเพิ่งเคยเห็นคนแบบนี้ เรื่องราวของพี่ตูน บอดี้สแลม ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน

มันก็ไม่ใช่ว่าแกไม่เหนื่อย

[ ที่จังหวัดบึงกาฬ สุดเขตชายแดนไทย-ลาว ]

“สวัสดีค่ะคุณเบลล์ ดีใจที่มาเยี่ยมโรงพยาบาลเราอีกนะคะ”

“สวัสดีครับผอ.”

“รอบนี้อยากให้ ผอ.ช่วยไรบ้าง”

“ก็เหมือนเดิมครับ อยากให้ ผอ.เล่าความเป็นมาของโรงพยาบาล เล่าความเดือดร้อน และสิ่งเร่งด่วนที่อยากให้ทางเราช่วยเหลือครับ”

“อ้าว! คราวที่แล้ว ผอ. เล่าให้คุณเบลล์ฟังไปแล้วนี่? “

“ใช่ครับ แต่รอบนี้ผมขอ อังกอร์อีกรอบให้พี่ตูนฟังได้ไหมครับ แกอยากมาดูด้วยตาตัวเอง”

“พี่ตูนมาด้วยเหรอคะ? ” ผอ.ถาม

“มาครับ”

“อุ้ย! ไม่คิดว่าแกจะมาเอง”

เท่านั้นล่ะ คุณหมอคุณพยาบาลมารอต้อนรับพี่ตูนกันใหญ่ ทุกคนมีรอยยิ้ม ทุกคนมีความหวัง

ความหวังที่เหมือนแสงสว่างจางๆ ที่ปลายอุโมงค์ โดยมีเงาของผู้ชายร่างเล็กคนหนึ่งอยู่ตรงนั้น

เค้ากำลังวิ่งไปเรื่อยๆ หน้าเครียดๆ สายตามุ่งมั่น ทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าต้องทำ ทำจนลืมความเหน็ดเหนื่อยของตัวเอง

[บนรถตู้ไปราชบุรี]

” วันนี้ไม่ไหวว่ะพี่ “

ตูนหันมาบอกผมบนรถตู้ ระหว่างทางที่ไปโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี ซึ่งโรงพยาบาลชวนพวกเราไปดูเครื่องมือเครื่องใช้
ที่ได้มาจากงบก้าวคนละก้าวเมื่อครั้งโน้น พอดีวันนี้ พี่ตูนมีเล่นคอนเสิร์ตที่ราชบุรีพอดี

ก่อนขึ้นเวที เราจึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลก่อน ผมอยู่กับพี่ตูนมาตั้งแต่ช่วงบ่าย ไม่รู้แกไปกินไรมาท้องเสีย เข้าห้องน้ำไปหลายที แล้วเพลียมาตลอดทาง นั่งถอนหายใจเฮือกๆ บ่นไม่มีแรงหลายรอบ กินแค่ขนมปังกาแฟไปช่วงบ่าย ถ้ากินมากไปเดี๋ยวจุก ขึ้นคอนเสิร์ตไม่ไหว

สรุปคือ ทั้งวันใช้แรงจากขนมปังชิ้นเล็กๆ 2 ชิ้น ผมเห็นแล้วก็อยากจะแบ่งเรี่ยวแรง และไขมันบางส่วนไปให้แกบ้าง 
วันนี้พี่ตูนดูโคตรสะโหลสะเหล จะไหวมั๊ยวะ?

พอเดินลงจากรถตู้ไปหาคุณหมอคุณพยาบาล ก็ได้รับการต้อนรับแสนอบอุ่น ทุกคนมีดอกไม้มาให้ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะดังลั่นโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี คุณว่าพี่ตูนไหวมั๊ย?

มีแรงเฉยเลย

ทางรพ.เปิด VTR ให้พวกเราดูว่า 
เงินบริจาคทุกบาท ทุกสตางค์ ได้นำมาซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้ชาวราชบุรี และจังหวัดใกล้เคียงได้ใช้แล้ว หลายชีวิตรอดต า ย หลายชีวิตได้ความสุขกลับคืนมา ชาวราชบุรีจึงขอขอบคุณคนไทยใจดี ขอบคุณพี่ตูนและทีมก้าวคนละก้าว มา ณที่นี้

และขอนำชื่อ “อาทิวราห์” นามอันเป็นความหวัง มาตั้งชื่อศูนย์อุปกรณ์ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี 

พี่ตูนน้ำตาซึม 

แกดีใจ แล้วก็ไม่รู้เอาแรงมาจากไหน เดินไปชมอุปกรณ์นั้น นี้ โน้น ตามตึกต่างๆ  ก้มลงไหว้ กราบ บรรดาผู้ป่วยตามหอต่างๆ ถ่ายรูปเซลฟี่แจกลายเซ็นต์ไปหลายต่อหลายครั้ง เหมือนลืมอาการเพลียตอนอยู่บนรถตู้ไปแล้ว เหมือนลืมไปว่า ยังมีคอนเสิร์ตที่ต้องเล่นเป็นคิวถัดไป

ผมแยกไปถ่ายทำงานที่พื้นที่ใกล้เคียงก่อน ตั้งใจว่าถ่ายเสร็จจะกลับบ้านเลย แต่พี่ตูนถามมาเสียงเบาๆ ว่า

“กลับมาได้มั๊ย? มาหาอะไรอ้วนๆ กินกัน”

บอกตรงๆ ว่าไม่ใช่คนเห็นแก่กิน แต่ทำใจแข็งไม่ไหว รู้ว่าแกทำเพื่อคนอื่นมามากเหลือเกิน ทำแบบที่ไม่จำเป็นต้องทำ
แต่แกก็ทำ เพราะแกเชื่อว่ามันจำเป็น

เออ กลับมาก็ได้  ว่าแต่กินอะไรอ่ะ

ผมตีรถกลับมาหาพี่ตูนอีกทีก็ตอนคอนเสิร์ตจบแล้ว จินตนาการว่าแกจะเดินโซซัดโซเซมาแน่ๆ  เพราะข้าวก็ไม่ได้กิน
เดินชมโรงพยาบาล เซอร์วิสทุกคนอยู่ร่วม 3 ชั่วโมง แล้วต่อด้วยการเล่นคอนเสิร์ต ถามว่าเฮียแกเคยเล่นเบาๆ ชิลๆ ซะที่ไหน

ผมเห็นพี่ตูนยืนเปลือยท่อนบน ตัวเงาแว้บ ถ่ายภาพกับแฟนๆ หลังเวทีอย่างร่าเริง  แฟนๆ ยิ้มร่ามีความสุข พี่ตูนก็ยิ้มแบบที่แกยิ้มประจำ คือยิ้มบางๆ อย่างอ่อนโยน  ผมเห็นแล้วรู้สึกชื่นใจ แต่ถ้าให้ไปกอดแกเหมือนแฟนๆ คงไม่เอา
คนอะไรเหงื่อออกยังกะเพิ่งไปเล่นน้ำตกมา 

บนเวทีคืนนี้คงจัดไปมิใช่น้อย 

[ระหว่างทางกลับบ้าน]

“มีความสุขเนอะ”
พี่ตูนบอก
“ดีครับ” (จะให้พูดว่าไงได้ )
“วันนี้ที่โรงพยาบาลดีมากเลย คอนเสิร์ตก็มันมาก สนุกมาก ผมอยู่ได้เพราะสิ่งนี้เลย”

ผมเกิดมาเพิ่งเคยเห็นคนแบบนี้ คนที่อยู่ตัวคนเดียวแล้วหงอยๆ ดูเซื่องๆ ซึมๆ  แต่เมื่อได้ทำอะไรเพื่อคนอื่นจะกลายเป็นจริงจัง มุ่งมั่นและทำได้เหมือนคนไม่รู้จักความเหน็ดเหนื่อย เหมือนว่าต้นกำเนิดพลังงานของเขา คือความสุขของทุกๆ คน

“กินไรอ่ะ” ผมทวง
“ผมขอบอกพี่เบลล์เลยว่าดึกๆ ต้องสิ่งนี้ ผมชอบมาก”

แล้วแกก็พาผมไปกินอาหารมื้อดึกที่แกชื่นชอบสุดๆ ซึ่งก็คือ ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นข้างถนน

โต๊ะเล็กๆ ในความมืดข้างทาง พี่ตูนของพวกเราซดก๋วยเตี๋ยวอย่างเอร็ดอร่อย ปากบอกชมรสชาติก๋วยเตี๋ยวกับเจ้าของร้านไม่หยุด ไม่มีใครรู้ว่านี่คือตูน บอดี้สแลม

ไม่มีใครรู้เพราะไม่น่าจะมีใครเชื่อ

ผมอยากจะถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน  แต่ก็ตัดสินใจล้มเลิก เพราะวันนี้พี่ตูนถ่ายรูปมามากแล้ว ให้เขาได้อยู่สงบๆ สบายๆ เป็นส่วนตัวบ้างน่าจะดีกว่า

“อิ่ม สบาย หลับได้” แกบอกมาอย่างร่าเริง

นับว่าเป็นอีกวันที่ผมได้สำรวจผู้ชายคนนี้อย่างใกล้ชิด และรู้สึกได้ว่า ถ้าจะมีใครสักคนที่เป็นแบบอย่างได้
ในหลายๆ เรื่อง ก็ต้องพี่ตูนนี่ล่ะ 

ตอนไปซื้อเครื่อง AED ให้ที่โรงพยาบาลสระใคร จ.หนองคาย ก็ไม่ได้ให้ทำ PR อะไร เพราะคิดว่าเงินเค้าเองไม่ต้องบอกใครหรอก แต่พอได้เห็น VTR ของโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี ที่ทำออกมาขอบคุณคนไทย ก็สั่งแล้วสั่งอีกว่า ให้เพจก้าวรีบเอามาแชร์ คนไทยได้เห็นจะได้ดีใจกัน

หัวใจของเขามีแต่เพื่อคนอื่น คนอย่างนี้มีอยู่จริงๆ

ฝากความรักและดูแลพี่ตูนกันด้วยครับ  แกจะได้อยู่เป็นแรงบันดาลใจให้กับพวกเราไปนานๆ

หลายคนถามว่า “แล้วหนูจะได้เจอพี่ตูนได้ยังไง?”
บอกเลยว่าหาไม่ยากครับ
เริ่มด้อมๆ มองๆ จากร้านก๋วยเตี๋ยวแถวบ้านก่อน
ไม่แน่ว่าคุณอาจได้เจอแกอาจจะนั่งกินอยู่อย่างเอร็ดอร่อยก็ได้

#ก้าวคนละก้าว #เพราะเราเชื่อในพลังเล็กๆ 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา  FB : Ramet Tanawangsri

เรียบเรียงโดย : รักยิ้ม