Home »
Uncategories »
เปิดตำนาน “เมืองหนองหาร” ที่ถูกพญานาคถล่ม จนจมลงใต้บาดาล ปัจจุบันมนต์ขลังยังคงอยู่
เปิดตำนาน “เมืองหนองหาร” ที่ถูกพญานาคถล่ม จนจมลงใต้บาดาล ปัจจุบันมนต์ขลังยังคงอยู่
หากพูดถึงเรื่องราว “พญานาคถล่มเมือง”
หลายคนคงจะสงสัยไม่น้อยว่าเรื่องราวเหล่านี้มีจริงหรือไม่?
หรือเป็นแค่ฉากเพื่อเพิ่มอรรถรสในละครเท่านั้น! ซึ่งวันนี้มีเรื่องราวของ
“เมืองหนองหาร” มาเล่าสู่กันฟัง
ที่ว่ากันว่าเป็นตำนานพญานาคถล่มเมืองของจริง!?
โดยตามตำนานปัจจุบันเมืองแห่งนี้ได้จมลงอยู่ใต้บาดาล “หนองหาร”
หนองน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน ซึ่งตั้งอยู่ที่อ.เมืองสกลนคร
อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร
โดยมูลเหตุที่ทำให้เกิด “หนองหาร”
นั้นเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวพันกับวรรณคดีพื้นบ้านอีสาน “ผ่าแดงนางไอ่”
ตำนานรักลึกซึ้งของหนึ่งหญิงสองชาย
เมื่อฝ่ายหนึ่งพลาดรักและถูกทำร้ายจนถึงแก่ความตาย
ก็กลายเป็นสงครามทำให้บ้านเมืองถล่มทลาย กลายเป็นหนองน้ำใหญ่
“เมืองสุวรรณโคมคำ” หรือเอกธีตา อยู่ทางทิศใต้ของเมืองหนองแส
มีพระยาขอมเป็นผู้ปกครอง มีธิดาสาวสวยคนหนึ่งชื่อ “นางไอ่คำ”
ซึ่งเป็นสตรีที่มีสิริโฉมงดงามเป็นที่เลื่องลือไปยังนครต่างๆ
ทั้งโลกมนุษย์และบาดาล ต่างมีชายหนุ่มหมายปองจะได้อภิเษกกับนางมากมาย
โดยในจำนวนผู้ที่มาหลงรักนางไอ่คำ คือ “ท้าวผาแดง” กษัตริย์เมืองผาโพง
และ “ท้าวภังคี” โอรสพญาสุทโธนาคราช เจ้าผู้ครองนครบาดาล
ท้าวทั้งสองต่างเคยมีความผูกพันธ์กับนางไอ่คำมาแต่อดีตชาติ
จึงต่างช่วงชิงจะได้เคียงคู่นางกัน แต่ก็พลาดหวัง
มิได้อภิเษกทั้งคู่เพราะแข่งขันบั้งไฟแพ้
ด้านท้าวภังคีไม่ยอมลดละ แปลงกายเป็น “กระรอกเผือก” คอยติดตามนางไอ่คำ
จนนางอยากได้มาครอบครอง แต่ไม่ว่ายังไงเจ้ากระรอกเผือกก็ไม่ให้จับง่ายๆ
จนสุดท้ายถูกนายพรานยิงตาย โดยก่อนตายท้าวภังคีในร่างกระรอกเผือก
ได้อธิษฐานว่า “ขอให้เนื้อของข้าจงเอร็ดอร่อย และมีพอกินแก่คนทั้งเมือง”
หลังจากนั้นชาวเมืองได้แจกจ่ายเนื้อกระรอกไปกินกัน ยกเว้นพวกแม่ม่าย
ที่ไม่ได้รับการแบ่ง ฝ่ายบริวารของภังคี ได้รีบกลับไปยังเมืองบาดาล
นำความไปบอกพญาสุทโธนาค ว่าโอรสได้ถูกสังหารแล้ว
เจ้าผู้ครองนครบาดาลโกรธมากจึงได้เกณฑ์พนับหมื่นแสนเพื่อถล่มเมืองพระยาขอม
ใครกินเนื้อภังคีต้องตายให้หมด กองทัพพญานาคจึงมุ่งสู่เมืองพระยาขอมทันที
ดึกสงัดของคืนนั้น ขณะที่ชาวเมืองเอกธีตากำลังหลับไหล
เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ท้องฟ้าอื้ออึงไปด้วยพายุฝนฟ้า
กระหน่ำลงมาอย่างหนัก ฟ้าแลบอยู่มิได้ขาด
แผ่นดินเริ่มถล่มยุบตัวลงไปทีละน้อย
ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของผู้คนที่วิ่งหนี ตาย เหล่าพญานาคผุดขึ้นมานับหมื่น
นับแสนตัว ถล่มเมืองเอกธีตาจมลงใต้บาดาลทันที คงเหลือไว้เป็นดอน 3 – 4
แห่ง ซึ่งเป็นที่อยู่ของพวกแม่ม่าย ที่ไม่ได้กินเนื้อกระรอกเผือกจึงรอดตาย
ฝ่ายท้าวผาแดงได้โอกาสรีบควบม้าหนีออกจากเมือง
โดยไม่ลืมแวะรับนางไอ่คำไปด้วย แต่แม้จะเร่งฝีเท้า ม้าเท่าใด
ก็หนีไม่พ้นทัพพญานาคที่ทำให้แผ่นดินถล่มตามมาติดๆ
ในที่สุดก็กลืนท้าวผาแดงและพระธิดาไอ่คำพร้อมม้าแสน รู้ชื่อ “บักสาม”
จมหายไปใต้พื้นดิน
รุ่งเช้าภาพของเมืองเอกธีตาที่เคยรุ่งเรืองโอฬาร ก็อันตธานหายไปสิ้น
คงเห็นพื้นน้ำกว้างยาวสุดตา ทุกชีวิตในเมืองเอกธีตาจมสู่ใต้บาดาลจนหมดสิ้น
เหลือไว้แต่แม่ม่ายบนเกาะร้าง 3 – 4 แห่ง ในผืนน้ำอันกว้างนี้
ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นหนองหาร ดังปรากฏในปัจจุบัน
ส่วนประวัติเมืองหนองหารหลวงไม่มีหลักฐาน ปรากฏไว้เป็นลายลักษณ์อักษร
นอกจากผู้เฒ่าผู้แก่ ของเมืองได้จดจำถ้อยคำของพระบรรเทา
กรมการเมืองขุขันธ์คนเก่ากับเพี้ยศรีคอนชุม
ซึ่งเป็นหัวหน้าข้าพระธาตุเชิงชุมว่า หลังจาก พระยาสุวรรณภิงคาระ
สิ้นพระชนม์ลง เหล่าเสนา ข้าราชการผู้ใหญ่ชาวเขมร ก็ได้ผลัดเปลี่ยน
กันเข้ามาปกครอง เป็นเจ้าเมือง หนองหารหลวง ต่อกันมาเรื่อยๆหลายยุคหลายสมัย