แม่บ้านต้องระวัง !!! ภัยแฝงจากน้ำยาปรับผ้านุ่ม

แม่บ้านต้องระวัง !!! ภัยแฝงจากน้ำยาปรับผ้านุ่ม

ปัจจุบันนี้การใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มถือว่าเป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งในการซักผ้า แทบไม่ต่างจากการใช้ผงซักฟอกเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะช่วยทำให้ผ้านุ่มตามชื่อแล้ว ก็ยังมีการผลิตออกมาหลากหลายกลิ่น ทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมติดเป็นเวลานาน แต่รู้หรือไม่ว่าน้ำยาปรับผ้านุ่มก็มีภัยแฝงที่ตามมา ส่วนจะเป็นยังไงนั้นเราไปดูกันเลย

ประโยชน์ของน้ำยาปรับผ้านุ่ม
น้ำยาปรับผ้านุ่ม ช่วยให้ผ้ามีความเรียบ นุ่ม ป้องกันการเกิดไฟฟ้าสถิตช่วยให้รีดได้ง่ายลดการยับของผ้า จึงทําให้สิ่งสกปรกติดเนื้อผ้ายากขึ้น และทําให้ผ้าเปียกน้ำยากขึ้น



หมอนอกกะลา…ตอน ชำแหละ น้ำยาปรับผ้านุ่ม
ผมขอให้ภรรยาหยุดการใช้สารเคมีใดๆ ในบ้าน เธอก็ไม่ยอมเชื่อสักที สงสัยจะดื้อเหมือนผม เอ๊ะ! หรือน่าจะมากกว่า ก็เลยต้องหาคำอธิบายให้เธอเข้าใจว่ามันทำอะไรกับเราและคนที่เรารัก

น้ำยาปรับผ้านุ่มทำงานอย่างไร?
น้ำยาปรับผ้านุ่มทำงานโดยการเคลือบพื้นผิวของเส้นใยผ้าที่มีชั้นบางของสารเคมี ซึ่งสารเคมีเหล่านี้มีคุณสมบัติในการหล่อลื่นจึงทำให้เส้นใยนุ่มนวลและป้องกันการสะสมของไฟฟ้าสถิต แถมยังมีสารที่ทำให้หน้าเตารีดเกิดไฟฟ้าสถิตเล็กน้อยเพื่อทำให้ไม่เกิดแรงต้านทานระหว่างการรีดผ้า จึงช่วยลดรอยยับในเสื้อผ้าได้เล็กน้อย



ส่วนประกอบสำคัญ
ส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยให้น้ำยาปรับผ้านุ่มมีคุณสมบัติดังกล่าวคือ กรดน้ำมัน ซึ่งกรดน้ำมันนี้จะยังคงติดคงทนอยู่ในเนื้อผ้าแม้ว่าจะผ่านการซักน้ำและรีดแล้วก็ตาม แต่สิ่งที่ที่ร้ายไปกว่านั้นน้ำมันนี้อาจซึมเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังของคุณ หรือจากการสูดดม

นอกจากนี้น้ำยาปรับผ้านุ่มยังประกอบด้วยสารเคมีที่เป็นอันตรายอีกหลายชนิดได้แก่ เอทิลเอซิเทต, เบนซิน เอซีเทต, เบนซิน แอลกอฮอล์ ,เอทานอลและคลอโรฟอร์ม โดยสารเคมีเหล่านี้ต้องควบคุมให้ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะเป็นพิษต่อร่างกายก่อให้เกิดการระคายเคืองและทำลายสุขภาพ มีพิษต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้รู้สึกมึน และเวียนศีรษะ

เมื่อได้รับสารเคมีทั้ง 5 ชนิดเข้าสู่ร่างกาย จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
  1. สารคลอโรฟอร์ม(Chloroform)
ไอระเหยของมันทำให้ร่างกายหมดความรู้สึกหรืออาจถึงขั้นสลบได้และไอระเหยของมันมีผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลางทำให้มีอาการปวดศีรษะ เวียนศีรษะถ้าคุณหายใจเอาสารที่ความเข้มข้นสูงเข้าไปเป็นประจำจะทำให้หมดสติและเสียชีวิตได้

2. สารเอทิลอะซีเตท (Ethyl acetate)
ไอระเหยของมันอาจทำให้เกิดอาการง่วงซึมและเวียนศีรษะ ทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนัง ตา และทางเดินหายใจ ใครที่มีอาการเหล่านี้บ่อยๆ แนะนำให้ลองสังเกตตัวเอง และลองปรับเปลี่ยนการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่ม



3. สารเบนซิลอะซีเตท (Benzyl acetate)
การหายใจเข้าไปทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อเมือกมีอาการไอ เวียนศีรษะเมื่อสัมผัสถูกผิวหนังจะก่อให้เกิดการระคายเคืองผื่นแดงการสัมผัสถูกตาจะก่อให้เกิดการระคายเคืองอ ตาแดง เจ็บตาตาพร่ามัว

4. สารเบนซิลแอลกอฮอล์ (Benzyl alcohol)
การหายใจเข้าไปจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อเมือก ทำให้ลำคออักเสบ เกิดอาการไอ หายใจถี่รัว เวียนศีรษะง่วงนอน หากสัมผัสถูกผิวหนังจะก่อให้เกิดการระคายเคืองผื่นแดง เจ็บปวด การกลืนหรือกินเข้าไปจะก่อให้เกิดการระคายเคืองลำคออักเสบ ปวดท้องคลื่นไส้ การสัมผัสถูกตา จะก่อให้เกิดการระคายเคืองตาแดง เจ็บตาตาพร่ามัว เมื่อสารดูดซึมผ่านร่างกาย ทำให้ระบบประสาทส่วนกลางผิดปกติ (อธิบายไว้ตอนท้าย)

5. มัสไซลีน (Musk xylene) เป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งน่ากลัวมาก
ดังนั้น จากข้อมูลความเป็นอันตรายข้างต้น ถือว่ามีความรุนแรงอย่างมากซึ่งส่งผลกระทบทำให้เกิดผลเสียทั้งในด้านร่างกายและทรัพย์สินของเราๆท่านๆ หากพบว่ามีสารเคมีที่เป็นอันตรายกับผู้บริโภค โทรแจ้งได้ที่หมายเลข 1166


ขอขอบคุณ : หมอนอกกะลา