เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาคาใจใครหลายๆ คน ที่มีเปล่าแล้วปล่อยทิ้งไว้ไม่ให้การดูแล จนกระทั่งมีคนเข้าไปสร้างกระท่อมอยู่อาศัยอย่างเปิดเผยนานหลาย 10 ปี จนทำให้เจ้าของต้องเสียที่ดินไป แม้จะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือมีโฉนดที่ดินก็ตาม เพราะผู้บุกรุกก็อาจได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ตามกฎหมายได้
อย่างไรก็ตามในเพจเฟซบุ๊ก สายตรงกฎหมาย ได้โพสต์คำแนะนำในการดูแลที่ดินที่ซื้อไว้ และไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ โดยอาจทำให้เสียสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของไป โดยสามารถดำเนินการได้ดังนี้…1 หมั่นไปดูที่ดินเป็นประจำ อย่างน้อยสุดปีละ 1 ครั้ง
(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)
2 เมื่อไปดูที่ดิน หากมีชาวบ้านแถวนั้น ให้เข้าไปถามไถ่ว่ามีใครมาใช้ที่ดินของเราบ้างมั้ย
3 ตรวจหลักหมุดว่ายังอยู่ที่เดิมมั้ย ชำรุดหรือไม่ มีการเคลื่อนย้ายหรือไม่ ไม่ใช่ว่าหายไปแล้วล่ะ
(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)
4 ถ้าหลักหมุดหาย ควรไปแจ้ง ตร ขอดำเนินคดีไว้ (ไม่ใช่แจ้งเป็นหลักฐาน ไม่ใช่แจ้งขอลงบันทึกประจำวัน) เพราะการทำลายหลักหมุดเป็นความผิดอาญา แต่หาก ตร ไม่ยอมจริงๆ เราก็อาจจะต้องยอมก็ได้ หลังจากนั้น แจ้งที่ดินเพื่อดำเนินการต่อ
5 ควรรังวัดที่ดินอย่างน้อยทุก 5 ปี หรือเมื่อพบความผิดปกติของเนื้อที่ที่เรามี เพราะที่ดินอาจมีการเพิ่มหรือลดได้ โดยเฉพาะที่ดินริมตลิ่งหรือริมน้ำ
(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)
6 หากพบผู้อื่นมาอยู่อาศัย ควรดำเนินการตกลงให้รู้เรื่องว่า เค้าอยู่บนที่ดินเรานะ จะเช่าหรือจะซื้อหรือจะอย่างไร ก็ควรตกลงกันให้รู้เรื่อง ไม่งั้นก็ไล่ออกไป
7 ที่ดินเราควรล้อมรั้วไว้เพื่อกำหนดเขตแดนที่แน่นอน
(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)
8 ควรแสดงป้ายว่าที่ดินนี้มีเจ้าของ คนอื่นจะได้รู้ว่าไม่ใช่ที่ดินสาธารณะ
9 สังเกตว่ามีร่องรอยทางเดินผ่านหรือทางรถวิ่งผ่านประจำหรือไม่ เพราะอาจจะโดนใช้เป็นทางผ่านประจำก็ได้
แหล่งที่มา : liekr