คู่รักมากมายบนโลกใบนี้ให้เหตุผลของการหย่าร้างแตกต่างกันไป
บ้างก็บอกว่าเป็นเพราะพวกเขาไม่สามารถจะเข้ากันได้
ในขณะที่บางคนก็ใช้ความเบื่อหน่ายมาเป็นข้ออ้าง และหลาย ๆ คนก็มีมือที่ 3
ฉกฉวยความรักจากคนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไป
แต่ทั้งนี้ไม่ว่าคู่รักเหล่านั้นจะหย่าร้างกันด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม สุดท้ายแล้วทุกเหตุผลก็ฝากความเจ็บปวดที่ยากเกินจะบรรยายเอาไว้ให้กับคนที่ต้องสูญเสียคนรักด้วยกันทั้งนั้น อีกทั้งยังเป็นสาเหตุที่อาจจะทำให้คนที่เคยให้คำมั่นสัญญาแปรเปลี่ยนเป็นศัตรูภายในชั่วข้ามคืน ซึ่งไม่ว่าจะมองมุมไหนการหย่าร้างก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเลย ดังนั้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจเซ็นใบหย่าลองคิดดูดี ๆ อีกครั้ง โดยเฉพาะ 5 เรื่องเหล่านี้
1. ลูก ๆ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
การหย่าร้างจะกลายเป็นเรื่องยากยิ่งขึ้นเมื่อมีลูก ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะการหย่าร้างนั้นจะไม่ใช่เรื่องของพวกคุณอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นเรื่องของลูก ๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งก่อนที่จะตัดสินใจเซ็นใบหย่าควรจะมองให้รอบด้าน โดยนอกจากเรื่องสิทธิในการดูแลลูกแล้ว ควรจะครอบคลุมไปถึงผลกระทบที่เกิดกับอารมณ์ ความรู้สึกที่อาจจะเกิดขึ้น และพัฒนากลายเป็นปมปัญหาของลูกในอนาคต
2. การส่งเสียค่าเลี้ยงดู
เรื่องค่าเลี้ยงดูเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณควรพิจารณาให้ถี่ถ้วน โดยเฉพาะผู้หญิงที่ละทิ้งหน้าที่การงานที่เป็นงานประจำทำเงินเดือน เพื่อออกมาดูแลเรื่องงานบ้านเพียงอย่างเดียว และการดูแลทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตด้วยตัวคนเดียวเริ่มกลายเป็นเรื่องยาก หากเกิดกรณีแบบนี้สิ่งที่พึงกระทำก็คือหาที่ปรึกษาทางด้านกฎหมายสักคน สำหรับปรึกษาหารือพร้อมกับช่วยจัดการเรื่องค่าเลี้ยงดูที่เหมาะสมให้กับตัวเอง
3. คิดถึงชีวิตโสด
คุณควรจะพิจารณาถึงข้อดีและข้อเสียเมื่อต้องกลับเข้าสู่สถานะโสดอีกครั้ง หากการหย่าร้างคือสิ่งที่คุณเลือก ก่อนที่จะตัดสินใจเซ็นชื่อลงในใบหย่าให้คุณลองใคร่ครวญดูอีกครั้ง ว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นสิ่งที่คุณเลือกโดยพิจารณาถึงเหตุผลแล้วจริง ๆ ไม่ใช่แค่ความรู้สึกชั่ววูบที่ทำให้คุณต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งหากยังไม่มั่นใจอาจจะลองแยกกันอยู่แบบยังไม่ต้องหย่าดูก่อนก็ได้ แต่ถ้าหากลองทำตามคำแนะนำดังกล่าวแล้วพบว่ายังรู้สึกอยากจะหย่าเหมือนเดิม ก็ค่อยกลับมาว่ากันใหม่อีกครั้ง
4. โอกาสในการเปลี่ยนสถานการณ์
สำหรับบางคนการแยกกันอยู่อาจจะเป็นเรื่องยากเกินไป ถึงแม้ตอนนี้จะไม่หลงเหลือความรักให้กันแล้วก็ตาม เพราะอย่างน้อยการอยู่ด้วยกันก็ยังรู้สึกสบายใจมากกว่า ในกรณีแบบนี้คุณก็ควรลองให้โอกาสกันและกันดูอีกสักรอบ ถ้าหากคุณยังเชื่อว่าจะสามารถทำให้ชีวิตการแต่งงานกลับดีได้อีกครั้ง พร้อมกับเก็บการหย่าร้างเอาไว้เป็นทางเลือกสุดท้าย เมื่อเห็นว่าชีวิตการแต่งงานของคุณไม่สามารถจะแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนอะไรได้อีกแล้ว
5. ความพร้อมด้านการเงิน
ที่สำคัญก่อนที่จะตัดสินใจเซ็นใบหย่า คุณควรเช็กความพร้อมของตัวเองเสียก่อนว่าสถานะการเงินของคุณพร้อมที่จะรองรับค่าใช้จ่ายที่จะตามมาหรือไม่ ทั้งในเรื่องของการดำเนินการทางกฎหมายและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพื่อเลี้ยงดูชีวิตในระยะยาว รวมไปถึงการแบ่งทรัพย์สินให้ลงตัวโดยไม่มีข้อขัดแย้ง ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เลยทีเดียว
กว่าที่คน 2 คน จะเจอกันจนได้ครองชีวิตร่วมกันไม่ใช่เรื่องง่าย และมีอีกหลายชีวิตโสดที่ไม่เคยมีโอกาสดี ๆ แบบนี้ ดังนั้นในเมื่อพวกคุณมีโอกาสและคนดี ๆ เคียงคู่คอยดูแลชีวิตอยู่ข้างกายแล้ว ก็ไม่ควรให้อารมณ์ชั่ววูบทำให้ชีวิตแต่งงานต้องพังทลาย อีกทั้งอาจจะสร้างความเจ็บปวดที่ติดตัวไปตลอดชีวิตซึ่งคงจะดีกว่าหากคุณลองคิดให้ถี่ถ้วน รอบคอบ และให้การหย่าร้างเป็นทางเลือกสุดท้ายสำหรับแก้ปัญหาชีวิตคู่
แต่ทั้งนี้ไม่ว่าคู่รักเหล่านั้นจะหย่าร้างกันด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม สุดท้ายแล้วทุกเหตุผลก็ฝากความเจ็บปวดที่ยากเกินจะบรรยายเอาไว้ให้กับคนที่ต้องสูญเสียคนรักด้วยกันทั้งนั้น อีกทั้งยังเป็นสาเหตุที่อาจจะทำให้คนที่เคยให้คำมั่นสัญญาแปรเปลี่ยนเป็นศัตรูภายในชั่วข้ามคืน ซึ่งไม่ว่าจะมองมุมไหนการหย่าร้างก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเลย ดังนั้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจเซ็นใบหย่าลองคิดดูดี ๆ อีกครั้ง โดยเฉพาะ 5 เรื่องเหล่านี้
1. ลูก ๆ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
การหย่าร้างจะกลายเป็นเรื่องยากยิ่งขึ้นเมื่อมีลูก ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะการหย่าร้างนั้นจะไม่ใช่เรื่องของพวกคุณอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นเรื่องของลูก ๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งก่อนที่จะตัดสินใจเซ็นใบหย่าควรจะมองให้รอบด้าน โดยนอกจากเรื่องสิทธิในการดูแลลูกแล้ว ควรจะครอบคลุมไปถึงผลกระทบที่เกิดกับอารมณ์ ความรู้สึกที่อาจจะเกิดขึ้น และพัฒนากลายเป็นปมปัญหาของลูกในอนาคต
2. การส่งเสียค่าเลี้ยงดู
เรื่องค่าเลี้ยงดูเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณควรพิจารณาให้ถี่ถ้วน โดยเฉพาะผู้หญิงที่ละทิ้งหน้าที่การงานที่เป็นงานประจำทำเงินเดือน เพื่อออกมาดูแลเรื่องงานบ้านเพียงอย่างเดียว และการดูแลทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตด้วยตัวคนเดียวเริ่มกลายเป็นเรื่องยาก หากเกิดกรณีแบบนี้สิ่งที่พึงกระทำก็คือหาที่ปรึกษาทางด้านกฎหมายสักคน สำหรับปรึกษาหารือพร้อมกับช่วยจัดการเรื่องค่าเลี้ยงดูที่เหมาะสมให้กับตัวเอง
3. คิดถึงชีวิตโสด
คุณควรจะพิจารณาถึงข้อดีและข้อเสียเมื่อต้องกลับเข้าสู่สถานะโสดอีกครั้ง หากการหย่าร้างคือสิ่งที่คุณเลือก ก่อนที่จะตัดสินใจเซ็นชื่อลงในใบหย่าให้คุณลองใคร่ครวญดูอีกครั้ง ว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นสิ่งที่คุณเลือกโดยพิจารณาถึงเหตุผลแล้วจริง ๆ ไม่ใช่แค่ความรู้สึกชั่ววูบที่ทำให้คุณต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งหากยังไม่มั่นใจอาจจะลองแยกกันอยู่แบบยังไม่ต้องหย่าดูก่อนก็ได้ แต่ถ้าหากลองทำตามคำแนะนำดังกล่าวแล้วพบว่ายังรู้สึกอยากจะหย่าเหมือนเดิม ก็ค่อยกลับมาว่ากันใหม่อีกครั้ง
สำหรับบางคนการแยกกันอยู่อาจจะเป็นเรื่องยากเกินไป ถึงแม้ตอนนี้จะไม่หลงเหลือความรักให้กันแล้วก็ตาม เพราะอย่างน้อยการอยู่ด้วยกันก็ยังรู้สึกสบายใจมากกว่า ในกรณีแบบนี้คุณก็ควรลองให้โอกาสกันและกันดูอีกสักรอบ ถ้าหากคุณยังเชื่อว่าจะสามารถทำให้ชีวิตการแต่งงานกลับดีได้อีกครั้ง พร้อมกับเก็บการหย่าร้างเอาไว้เป็นทางเลือกสุดท้าย เมื่อเห็นว่าชีวิตการแต่งงานของคุณไม่สามารถจะแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนอะไรได้อีกแล้ว
5. ความพร้อมด้านการเงิน
ที่สำคัญก่อนที่จะตัดสินใจเซ็นใบหย่า คุณควรเช็กความพร้อมของตัวเองเสียก่อนว่าสถานะการเงินของคุณพร้อมที่จะรองรับค่าใช้จ่ายที่จะตามมาหรือไม่ ทั้งในเรื่องของการดำเนินการทางกฎหมายและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพื่อเลี้ยงดูชีวิตในระยะยาว รวมไปถึงการแบ่งทรัพย์สินให้ลงตัวโดยไม่มีข้อขัดแย้ง ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เลยทีเดียว
กว่าที่คน 2 คน จะเจอกันจนได้ครองชีวิตร่วมกันไม่ใช่เรื่องง่าย และมีอีกหลายชีวิตโสดที่ไม่เคยมีโอกาสดี ๆ แบบนี้ ดังนั้นในเมื่อพวกคุณมีโอกาสและคนดี ๆ เคียงคู่คอยดูแลชีวิตอยู่ข้างกายแล้ว ก็ไม่ควรให้อารมณ์ชั่ววูบทำให้ชีวิตแต่งงานต้องพังทลาย อีกทั้งอาจจะสร้างความเจ็บปวดที่ติดตัวไปตลอดชีวิตซึ่งคงจะดีกว่าหากคุณลองคิดให้ถี่ถ้วน รอบคอบ และให้การหย่าร้างเป็นทางเลือกสุดท้ายสำหรับแก้ปัญหาชีวิตคู่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
magforwomen.com และ huffingtonpost.com