กระทรวงการคลัง
เตรียมเสนอมาตรการดูแลสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย ให้ ครม. พิจารณา ภายใน 1-2
สัปดาห์นี้ หวังช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย มีเงินเพียงพอดำรงชีพ
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2560 นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ กระทรวงการคลังมีแผนจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณามาตรการสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย สำหรับผู้ที่ผ่านเกณฑ์การลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 ในรอบแรก หรือโครงการลงทะเบียนคนจน โดยจะใช้งบประมาณจำนวน 40,000 ล้านบาท ได้แก่ ช่วยเหลือค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี ซื้อสินค้าผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ เป็นต้น ซึ่งเป็นสวัสดิการช่วยเหลือในสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของผู้มีรายได้น้อย
ส่วนมาตรการเพิ่มเติมในรอบสอง เช่น การจ่ายเงินภาษีให้คนจน (Negative Income Tax) โดยให้กับผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี จำนวน 3-4 ล้านคน ต้องรอผลการตรวจสอบสิทธิ์ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยว่า จำนวนที่แท้จริงมีเท่าไร ซึ่งรูปแบบการช่วยเหลือ จะเป็นการให้บัตรสวัสดิการแก่ผู้ที่มีสิทธิ์ ที่ใส่วงเงินไว้ให้ประมาณหลักพันบาทต่อเดือน และจะให้เดือนต่อเดือน หากใช้ไม่หมดก็จะตัดไป
สำหรับมาตรการช่วยเหลือดังกล่าว จะจ่ายเงินผ่านบัตรสวัสดิการคนจน มีวงเงินในบัตรประมาณ 2,750 บาทต่อเดือน และเป็นแยกประเภทค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น เพื่อขึ้นรถไฟ 1,000 บาท, รถบขส. 800 บาท, รถเมล์ ขสมก. 600 บาท, ค่าไฟ 200 บาท, ค่าน้ำ 150 บาท เป็นต้น โดยจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้
นายสมชัย กล่าวอีกว่า กระทรวงการคลังยังเร่งดำเนินการเพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพ จะได้ไม่ก่อหนี้นอกระบบ ซึ่งจากจำนวนผู้ที่มาลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย 14.1 ล้านคน พบว่ามีหนี้นอกระบบอยู่ 1.3 ล้านคน มูลหนี้รวมดอกเบี้ย 8 หมื่นล้านบาท โดยกระทรวงการคลังจะดำเนินการลดหนี้นอกระบบให้เป็นศูนย์ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีให้สำเร็จภายในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ ผู้ที่มีหนี้นอกระบบสามารถเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ได้ โดยเริ่มจากการไกล่เกลี่ยหนี้ระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ และจัดหารายได้เสริม ฟื้นฟูอาชีพ เพิ่มรายได้ให้ผู้ที่มีหนี้นอกระบบ รวมทั้งยังสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนอื่น ๆ เช่น สินเชื่อธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน และพิโกไฟแนนซ์ รวมทั้งได้สั่งให้คณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) หามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกจังหวัดทั่วประเทศ เช่น เปิดพื้นที่ขายของฟรีจนถึงสิ้นปี เพื่อให้พ่อค้า แม่ค้า ขายสินค้าเพิ่มรายได้ให้ตนเอง
***หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 25 กรกฎาคม 2560
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2560 นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ กระทรวงการคลังมีแผนจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณามาตรการสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย สำหรับผู้ที่ผ่านเกณฑ์การลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 ในรอบแรก หรือโครงการลงทะเบียนคนจน โดยจะใช้งบประมาณจำนวน 40,000 ล้านบาท ได้แก่ ช่วยเหลือค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี ซื้อสินค้าผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ เป็นต้น ซึ่งเป็นสวัสดิการช่วยเหลือในสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของผู้มีรายได้น้อย
ส่วนมาตรการเพิ่มเติมในรอบสอง เช่น การจ่ายเงินภาษีให้คนจน (Negative Income Tax) โดยให้กับผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี จำนวน 3-4 ล้านคน ต้องรอผลการตรวจสอบสิทธิ์ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยว่า จำนวนที่แท้จริงมีเท่าไร ซึ่งรูปแบบการช่วยเหลือ จะเป็นการให้บัตรสวัสดิการแก่ผู้ที่มีสิทธิ์ ที่ใส่วงเงินไว้ให้ประมาณหลักพันบาทต่อเดือน และจะให้เดือนต่อเดือน หากใช้ไม่หมดก็จะตัดไป
สำหรับมาตรการช่วยเหลือดังกล่าว จะจ่ายเงินผ่านบัตรสวัสดิการคนจน มีวงเงินในบัตรประมาณ 2,750 บาทต่อเดือน และเป็นแยกประเภทค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น เพื่อขึ้นรถไฟ 1,000 บาท, รถบขส. 800 บาท, รถเมล์ ขสมก. 600 บาท, ค่าไฟ 200 บาท, ค่าน้ำ 150 บาท เป็นต้น โดยจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้
นายสมชัย กล่าวอีกว่า กระทรวงการคลังยังเร่งดำเนินการเพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพ จะได้ไม่ก่อหนี้นอกระบบ ซึ่งจากจำนวนผู้ที่มาลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย 14.1 ล้านคน พบว่ามีหนี้นอกระบบอยู่ 1.3 ล้านคน มูลหนี้รวมดอกเบี้ย 8 หมื่นล้านบาท โดยกระทรวงการคลังจะดำเนินการลดหนี้นอกระบบให้เป็นศูนย์ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีให้สำเร็จภายในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ ผู้ที่มีหนี้นอกระบบสามารถเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ได้ โดยเริ่มจากการไกล่เกลี่ยหนี้ระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ และจัดหารายได้เสริม ฟื้นฟูอาชีพ เพิ่มรายได้ให้ผู้ที่มีหนี้นอกระบบ รวมทั้งยังสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนอื่น ๆ เช่น สินเชื่อธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน และพิโกไฟแนนซ์ รวมทั้งได้สั่งให้คณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) หามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกจังหวัดทั่วประเทศ เช่น เปิดพื้นที่ขายของฟรีจนถึงสิ้นปี เพื่อให้พ่อค้า แม่ค้า ขายสินค้าเพิ่มรายได้ให้ตนเอง
***หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 25 กรกฎาคม 2560
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก