ปลาสวยงาม จัดเป็นสัตว์ที่คนไทยนิยมเลี้ยงไว้ประดับบ้าน
นอกจากความสวยงามของปลาแล้ว ยังมีเรื่องของฮวงจุ้ยอีกด้วย
จึงทำให้การเปิดร้านขายปลาสวยงามจัดเป็นธุรกิจส่วนตัวที่น่าสนใจ สำหรับผูที่ชื่นชอบการเลี้ยงปลาเป็นอย่างมาก เราไปดูปัจจัยต่าง ๆ ในการเปิดร้านขายปลาสวยงามเป็นธุรกิจส่วนตัว เป็นของตัวเองดีกว่าว่ามีขั้นตอนและปัจจัยอะไรบ้าง
2. นำตู้ปลาที่ล้างสะอาดดีแล้วไปตั้งในที่ที่จัดเตรียมไว้ บรรจุหิน ต้นไม้น้ำ ปะการัง และของตกแต่งให้ตู้ดูสวยงาม พร้อมติดตั้งเครื่องกรองน้ำ และเครื่องทำออกซิเจนลงไปในตู้
3. เติมน้ำลงไปในตู้ปลาจนเกือบเต็ม เตรียมน้ำใส่ในภาชนะอีกที่เพื่อเตรียมไว้สำหรับพักปลา โดยใช้น้ำสะอาด
4. นำพันธุ์ปลาที่ต้องการ เช่น ปลาเงิน ปลาทอง ปลาคราฟ ฯลฯ มาใส่ในภาชนะพักปลาก่อน เพื่อปรับสภาพจากการเคลื่อนย้าย
5. เมื่อปลาดูแข็งแรงดีแล้ว ให้ใช้กระชอนค่อย ๆ ช้อนปลาในภาชนะพัก ใส่ลงในตู้ปลาที่เราจัดเตรียมไว้ ให้ใส่ในปริมาณที่เหมาะสมกับเนื้อที่ว่างของตู้ปลา
6. จากนั้นค่อยให้อาหารปลาในตู้เป็นเวลาอย่างสม่ำเสมอ ให้อาหารในปริมาณที่พอเหมาะโดยให้วันละ 1 ครั้ง หากปลากัดกันหรือว่าเป็นโรคให้แยกออกจากกัน แล้วใช้ยารักษาปลาที่เป็นโรค อย่าลืมหมั่นเปลี่ยนน้ำในตู้ปลาด้วย
เปิดร้านขายปลาสวยงาม ลงทุนเท่าไหร่ ?
- กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อย ส่วนใหญ่จะขายแบบซื้อมาขายไป ไม่ได้เพาะพันธุ์เลี้ยงเอง ใช้ทุนประมาณ 2,000 – 5,000 บาท โดยที่ยังไม่รวมค่าเช่าที่
- กรณีมีเงินสำหรับลงทุนพร้อมที่เปิดร้านขายปลา จะใช้ทุนประมาณ 20,000 – 30,000 บาท โดยที่ยังไม่รวมค่าเช่าที่
- กรณีมีเงินทุนมาก พร้อมขายปลาและอุปกรณ์สำหรับเลี้ยงปลา จะใช้ทุนประมาณ 50,000 – 100,000 บาท โดยที่ยังไม่รวมค่าเช่าที่
**โดยจำนวนเงินทุนต่าง ๆ จะไม่คงที่ ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ปลาอีกด้วย
เปิดร้านขายปลาสวยงาม เริ่มต้นอย่างไร ?
1. จัดหาซื้อตู้เลี้ยงปลาขนาดใหญ่มาไว้ ประมาณ 2 – 3 ตู้ ล้างตู้ให้สะอาดดี2. นำตู้ปลาที่ล้างสะอาดดีแล้วไปตั้งในที่ที่จัดเตรียมไว้ บรรจุหิน ต้นไม้น้ำ ปะการัง และของตกแต่งให้ตู้ดูสวยงาม พร้อมติดตั้งเครื่องกรองน้ำ และเครื่องทำออกซิเจนลงไปในตู้
3. เติมน้ำลงไปในตู้ปลาจนเกือบเต็ม เตรียมน้ำใส่ในภาชนะอีกที่เพื่อเตรียมไว้สำหรับพักปลา โดยใช้น้ำสะอาด
4. นำพันธุ์ปลาที่ต้องการ เช่น ปลาเงิน ปลาทอง ปลาคราฟ ฯลฯ มาใส่ในภาชนะพักปลาก่อน เพื่อปรับสภาพจากการเคลื่อนย้าย
5. เมื่อปลาดูแข็งแรงดีแล้ว ให้ใช้กระชอนค่อย ๆ ช้อนปลาในภาชนะพัก ใส่ลงในตู้ปลาที่เราจัดเตรียมไว้ ให้ใส่ในปริมาณที่เหมาะสมกับเนื้อที่ว่างของตู้ปลา
6. จากนั้นค่อยให้อาหารปลาในตู้เป็นเวลาอย่างสม่ำเสมอ ให้อาหารในปริมาณที่พอเหมาะโดยให้วันละ 1 ครั้ง หากปลากัดกันหรือว่าเป็นโรคให้แยกออกจากกัน แล้วใช้ยารักษาปลาที่เป็นโรค อย่าลืมหมั่นเปลี่ยนน้ำในตู้ปลาด้วย
เปิดร้านขายปลาเป็นธุรกิจส่วนตัว กำไรดีไหม ?
การทำกำไรจากการขายปลาสวยงามจะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ปลา ความสวยงามของปลา และความต้องการของลูกค้า นอกจากนั้นยังทำรายได้จากการขายอุปกรณ์สำหรับเลี้ยงปลา เช่น ตู้ปลา หินกรวด และของตกแต่งอื่น ๆ และทำกำไรจากการขายอาหารปลาได้อีกด้วยปัจจัยอื่น ๆ ในการเปิดร้านขายปลาสวยงาม เป็นธุรกิจส่วนตัว
- เวลา หากจะเปิดร้านปลาเป็นธุรกิจส่วนตัวของตนเอง ต้องมีเวลา ในการดูแลร้าน เช่นการให้อาหารปลา เปลี่ยนถ่ายน้ำ ล้างตู้ เป็นต้น
- ทำเล การจะขายดีหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับทำเลเป็นปัจจัยสำคัญอีกด้วย ความมีทำเลอยู่ในที่ ๆ คนพลุกพล่าน ในแหล่งชุมชน หรือขายในตลาดนัดก็ดี
- การดูแลและพัฒนาปลา การดูแลและพัฒนาปลาให้แข็งแรงและสวยงาม จะส่งผลให้ลูกค้าให้ความสนใจ และซื้อปลาจากเรานั้นเอง ดังนั้นควรดูแลและพัฒนาปลาของเราให้สวยงาม จะเป็นที่ต้องการของตลาด
พันธุ์ปลาสวยงามขายที่ดีตลอดปี
- ปลาซัคเกอร์ ปลาหางนกยูง ปลาคาร์พ
- ปลาหมอสี ปลาทอง กระดี่หม้อ
- ปลาตะพัด ปลาเทวดา ปลากระดี่แคระ
ทำเลสำหรับขายปลาสวยงาม
- ตลาดนัด
- แหล่งชุมชน
- อินเตอร์เน็ต หรือโซเชียลเน็ตเวิร์ค