สรุปรายการบริจาคเงิน ลดหย่อนภาษี 2563 ลดภาระภาษีแบบคุ้ม ๆ ถึง 2 เท่า รีบมาเช็กเงื่อนไข ก่อนยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ช่วงต้นปี 2564 มนุษย์เงินเดือนและผู้มีรายได้ที่กำลังวางแผนจัดการภาษีกันอยู่ บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า เงินบริจาค หรือ เงินทำบุญ สามารถเป็นตัวช่วยลดหย่อนภาษีได้เหมือนกัน แถมบางรายการลดหย่อนได้ถึง 2 เท่าอีกด้วย หมายความว่า บริจาคไป 1,000 บาท นำมาลดหย่อนได้ถึง 2,000 บาทเลยทีเดียว ว่าแต่จะมีรายการบริจาคอะไรบ้างนั้น ที่ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า เรารวบรวมมาให้แล้ว
1. บริจาคเพื่อการศึกษา
การบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษา สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น ๆ โดยเป็นการบริจาคเพื่อการใช้จ่ายสำหรับ 3 รายการนี้
- อาคารสถานที่ เป็นการจัดหาหรือจัดสร้างอาคาร หรือที่ดินให้แก่สถานศึกษาเพื่อใช้ประโยชน์ทางการศึกษา
- สื่อการเรียน การสอน เป็นการจัดหาวัสดุอุปกรณ์เพื่อการศึกษา แบบเรียน ตำรา หนังสือทางวิชาการ สื่อ และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
- บุคลากร เป็นการจัดหาครู อาจารย์ หรือผู้ทรงคุณวุฒิทางการศึกษา ให้กับสถานศึกษา
ทั้งนี้ ผู้ที่บริจาคสนับสนุนการศึกษา
เพื่อใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี 2 เท่า
จะต้องบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) เท่านั้น
จึงจะสามารถหักลดหย่อนได้ 2 เท่า ไม่เช่นนั้นจะสามารถลดหย่อนภาษีได้เพียง 1
เท่าตามที่จ่ายจริง อย่างไรก็ตาม การบริจาคผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์นี้
มีข้อดีตรงที่เราไม่ต้องเก็บใบเสร็จการบริจาคมาเป็นหลักฐานเพื่อยื่นภาษีอีกต่อไป
เพราะข้อมูลการบริจาคของเราจะส่งตรงถึงกรมสรรพากรเลย
ภาพจาก PongMoji/Shutterstock
3. สนับสนุนการกีฬา
ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า แต่เมื่อรวมกับเงินสนับสนุนการศึกษาแล้วต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น ๆ หากเป็นการบริจาคเงินให้หน่วยงานด้านกีฬาที่สังกัดสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย
• ตรวจสอบรายชื่อหน่วยงานด้านกีฬาที่หักลดหย่อนได้ 2 เท่า
ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า แต่เมื่อรวมกับเงินสนับสนุนการศึกษาแล้วต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น ๆ หากเป็นการบริจาคเงินให้หน่วยงานด้านกีฬาที่สังกัดสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย
• ตรวจสอบรายชื่อหน่วยงานด้านกีฬาที่หักลดหย่อนได้ 2 เท่า
4. กองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการจัดตั้งขึ้น
สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า
แต่เมื่อรวมกับเงินสนับสนุนการศึกษาแล้วต้องไม่เกิน 10%
ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น ๆ ซึ่งต้องเป็นการบริจาคให้กองทุนที่กระทรวงศึกษาธิการจัดตั้งขึ้น เพื่อสนับสนุนและจูงใจให้มีการบริจาคเงินให้แก่กองทุนพัฒนาครูให้มีคุณภาพและมาตรฐานเหมาะสมกับการเป็นวิชาชีพชั้นสูง
สำหรับการบริจาคเงินให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก รวมทั้งการสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ก็สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า แต่เมื่อรวมกับเงินสนับสนุนการศึกษาแล้วต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น ๆ
นำมาหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า
แต่เมื่อรวมกับเงินสนับสนุนการศึกษาแล้วต้องไม่เกิน 10%
ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น ๆ
สำหรับเงินบริจาคเข้ากองทุนยุติธรรม
ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน
มีโอกาสเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียม
และเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับช่วยเหลือประชาชนในการดำเนินคดี
การขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลย การถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน
และการให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชน
8. การจัดหาหนังสือหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อส่งเสริมการอ่าน
ใช้หลักฐานอะไรในการขอลดหย่อนภาษี
- กรณีเป็นการบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษาที่ใช้สิทธิ์หักลดหย่อนภาษี 2 เท่า ตั้งแต่ปี
2562 เป็นต้นไป ต้องเป็นการบริจาคผ่านระบบ e-Donation เท่านั้น
ซึ่งข้อมูลการบริจาคจะถูกบันทึกและส่งให้กรมสรรพากรโดยตรง
โดยที่เราไม่ต้องเก็บหลักฐาน เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบอนุโมทนาบัตร
ไว้ยื่นภาษี
- กรณีเป็นการบริจาคเงินอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เพื่อสนับสนุนการศึกษา
ยังสามารถใช้ใบเสร็จรับเงินบริจาค ใบอนุโมทนาบัตร
ที่ระบุชื่อผู้บริจาคชัดเจนตรงกับชื่อ-นามสกุลของผู้เสียภาษี
เพื่อนำมาใช้เป็นหลักฐานในการลดหย่อนภาษีได้ หรือสามารถบริจาคผ่านระบบ
e-Donation ก็ได้เช่นกัน
บริจาคผ่าน e-Donation ได้อย่างไร
ก่อนอื่นต้องตรวจสอบว่าหน่วยงานที่เราจะบริจาค
ไม่ว่าจะเป็นสถานศึกษา ศาสนสถาน โรงพยาบาล องค์การ สถานสาธารณกุศลต่าง ๆ
มีระบบ e-Donation หรือไม่
ข้อดีของระบบนี้ก็คือ
เมื่อเราบริจาคเงินก็สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้เลย
โดยไม่ต้องเก็บหลักฐานการบริจาคมายื่นภาษี จึงไม่ต้องกังวลว่าเอกสารต่าง ๆ
จะสูญหาย และยังช่วยให้เราได้รับเงินคืนภาษีได้เร็วขึ้นด้วย
โดยสามารถบริจาคผ่าน e-Donation และแจ้งความประสงค์จะใช้ลดหย่อนภาษีได้ 2
ช่องทางคือ
- กรณีบริจาคด้วยเงินสดที่หน่วยรับบริจาค ให้แจ้งหน่วยรับบริจาคบันทึกข้อมูลการบริจาคบนระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์
(e-Donation) ทันที
- กรณีบริจาคผ่านธนาคารพาณิชย์โดยการโอนเงินด้วย QR Code ให้สังเกตแผ่นป้าย QR Code ต้องมีคำว่า "e-Donation" และชื่อบัญชีเงินฝาก "หน่วยรับบริจาค" เมื่อสแกน QR Code แล้ว จะมีข้อความแจ้งความประสงค์ให้ธนาคารส่งข้อมูลการบริจาคของเราให้กรมสรรพากร เพื่อขอหักลดหย่อนภาษี
ตัวอย่าง QR Code ที่สามารถบริจาคผ่าน e-Donation เพื่อลดหย่อนภาษีได้
ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบยอดเงินบริจาคผ่าน e-Donation ของเราได้ที่ edonation.rd.go.th
การบริจาคเงินเพื่อลดหย่อนภาษีนั้น
จะนำมาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย
ค่าลดหย่อนอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เงินบริจาค โดยสามารถคำนวณง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
ตัวอย่างเช่น : นาย A มีรายได้ทั้งปี 600,000 บาท บริจาคเงินเพื่อการศึกษา 10,000 บาท และใช้สิทธิลดหย่อนภาษีอื่น ๆ ดังนี้
- หักค่าใช้จ่าย 50% ของเงินได้ (แต่ไม่เกิน 100,000 บาท) = 100,000 บาท
- หักค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท
- หักค่าประกันสังคม 5,850 บาท
- หักค่าลดหย่อนบุตร 1 คน 30,000 บาท
- หักค่าลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิต 30,000 บาท
ดังนั้น เมื่อหักค่าลดหย่อนข้างต้นแล้ว นาย A จะเหลือเงินได้สุทธิเท่ากับ 374,150 บาท
จากนั้นให้นำรายได้สุทธิหลังหักค่าลดหย่อนอื่น ๆ ของนาย A จำนวน 374,150 บาท ไปคำนวณลดหย่อนภาษีเงินบริจาค นั่นคือ นาย A จะหักลดหย่อนภาษีเงินบริจาค ได้ไม่เกิน 10% ของ 374,150 บาท หรือไม่เกิน 37,415 บาท
ดังนั้น
การที่นาย A บริจาคเงินเพื่อการศึกษาไป 10,000 บาท
ซึ่งสามารถลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า แต่ไม่เกิน 10%
ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น ๆ จะทำให้นาย A สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ถึง 20,000 บาท
หรือหากนาย A อยากลดหย่อนภาษีแบบคุ้มค่าที่สุด
ก็สามารถเพิ่มเงินบริจาคเป็น 18,707.50 บาทได้
ก็จะช่วยให้ลดภาระภาษีสูงสุดที่ 37,415 บาท
ทั้งหมดนี้ก็เป็นรายการบริจาคเงินลดหย่อนภาษี 2 เท่า
ที่เรารวบรวมมาให้แบบครบถ้วน ใครที่ไม่ได้บริจาคผ่านระบบ e-Donation
ก็อย่าลืมเก็บหลักฐานใบเสร็จไว้ยื่นต่อกรมสรรพากรด้วยนะ
***หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2563
ขอบคุณข้อมูลจาก