10 ข้อคิด เปลี่ยนมุมมองชีวิตหลังเกษียณ

การใช้ชีวิตหลังเกษียณให้มั่นคง มีควาสุข และสงบ หลังจากเข้าสู่วัยเกษียณบางอย่างเรา

ก็ไม่สามารถทำตามวัยรุ่ยได้ หรือทำตามใจตัวเองได้เหมือนแต่ก่อน เพราะฉะนั้นแล้วบทความด้านล่าง

นี้ต่อไปนี้ จะช่วยปรับเปลี่ยนทัศนคติ และเปลี่ยนวิถีชีวิตของคุณ เพื่อการดำเนินชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

1. เลิกแคร์ว่าคนอื่นในสังคมจะคิดกับคุณอย่างไร

หน้ากากา หรือหัวโขนที่คุณใส่เวลาเข้าสังคมจะอยู่กับคุณไม่นาน จงปล่อยวาง และเปิดเผยตัวตนของคุณ

หลับไปหาเพื่อนที่ดี และจริงใจกับคุณ ออกห่างจากคนที่เข้าหาคุณเพียงเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

2. ลดการทำงานหนักซะบ้าง

ถ้าคุณเป็นมนุษย์เงินเดือนทำงานเอกชน อายุ 50 ถ้ายังไม่ขึ้นเป็นผู้บริหาร แสดงว่าคุณคงไม่อยู่ในสายตา

เจ้านายเท่าไรนัก อย่า เ สี  ย พลังชีวิตไปกับการทำงานหนักอีกเลย เอาเวลามาดูแลสุขภาพตัวเอง

ให้มากขึ้นดีกว่า ถ้าคุณขึ้นเป็นผู้บริหารที่ต้องทำงานหนักเพื่อบริษัท คงต้องจัดสรรเวลาให้กับครอบครัว

และสุขภาพตัวคุณเองด้วย แต่ถ้าคุณเป็นข้าราชการ คุณมีความมั่นคงและเวลาว่างพอสมควร

ใช้เวลาดูแลสุขภาพและเตรียมงานอดิเรกของคุณหลังเกษียณได้เลย เช่นกัน ถ้าคุณทำงานอิสระ

คุณสาม  า ร ถ ทดลองเกษียณล่วงหน้าได้ก่อนเลย ถ้าคุณมีเงินพอตามข้อ 1 แล้วล่ะก็นะและคุณ

เป็นเจ้าของกิจการ คุณคงต้องเริ่มหาผู้ช่วยที่ไว้ใจได้ มาช่วยคุณบริหารงาน โดยคุณ ส า ม า ร ถ

ออกมาดูแลห่างๆได้ แต่อย่าหวังว่า ลูกของคุณจะรับภาระนี้ ปล่อยให้เขาเลือกทางเดินชีวิตของเขาเองเถิด

3. หยุดลังเลเกี่ยวกับการหางานใหม่และการทำงาน

เมื่ออายุใกล้เข้าวัย 50 คุณควรจะมีงานที่มั่นคง และเป็นงานที่คุณรักจริงๆสักที เพราะถ้างานนั้น

ไม่ใช่ตัวตนของคุณ มันก็คงจะสายเกินไปที่จะไปเริ่มที่ใหม่ ให้คุณอดทนทำต่อไป เพราะคุณคุ้นชิน

กับมันแล้ว แต่ถ้าคุณจะหางานใหม่น่าจะเป็นงานที่คุณอยๅกทำหลังเกษียณซะมากกว่า

4. หยุดการใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือย

ถ้าคุณเริ่มคิดเก็บเงินไว้ใช้หลังเกษียณ ดูเหมือนว่าค่อนข้างจะสายไปแล้วนะสิ อายุเกิน 50 เท่าไร

คุณควรมีเงินสะสมที่เอาไว้ใช้หลังเกษียณต่อปี บวกไปอีก 10 ปี เช่น อายุ 51 ควรมีเงินสะสม 10+1=11 ปี

อายุ 52 ควรมีสะสม 12 ปี อายุ 60 ควรมีเงินสะสม 20 ปี นี่คือตัวเลขโดยประมาณว่าคุณจะจากไปที่อายุ 80 ปี

5. หยุดทำ ร้  า ย ร่างกายของคุณเอง

อย่างเช่น การ เ ม า ค้าง, สู บ บุ หรี่, อดนอน, กินโดยไม่ประมาณ, ขับรถเร็ว และหันกลับมาดูแลร่างกาย

ตัวเองด้วยการออกกำลังกาย หลายคนคงจะผลัดวันและเลี่ยงการออกกำลังกายมาตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มสาว

เมื่ออายุเลขขึ้นห้า หมายความว่า ร่างกายคุณกำลังจะร่วงโรยแล้ว ฉะนั้นหันมาใส่ใจกับการออกกำลังกายเถอะ

6. เลิกกังวลถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย

เช่น ถุงใต้ตา, ตี น ก า, เหนียงที่คอ หรือรอยย่นทั้งหลาย เหล่ๅนี้เป็นตัวบอกถึงประสบการณ์ที่คุณ ผ่  า น

ร้อนหนาวมา คุณไม่ ส า ม า  ร ถ เลี่ยงความแก่ได้ จงภูมิใจกับมันเถิด ยอมรับมัน และจงแก่ให้สง่างาม

7. หยุดการเล่นอินเทอร์เน็ตที่มากเกินจำเป็น

คุณควรเริ่มทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันและมีคุณค่าดีกว่าเอาเวลาไปเล่น Social Network

เว้นแต่ว่าคุณใช้ในการติดต่อเพื่อนเก่าๆ หรือหาข้อมูลข่าว ส  า ร ที่เป็นประโยชน์ เล่นไลน์ การเล่นเฟซบุ๊ก

เล่นได้ แต่ต้องมีการ จำ กั  ด เวลา เพราะสิ่งเหล่านี้มันจะทำให้คุณ เ สี  ย เวลาและได้ประโยชน์น้อยมาก

8. หยุดนึกถึงความล้มเหลวในอดีตที่ ผ่  า น มา

เพราะการคิดถึงแต่เรื่องร้า ยๆ ที่ ผ่  า น มา จะทำให้ความสุขในปัจจุบันหายไป

ให้คิดว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของคุณ แต่ลงมือทำเหมือนว่าคุณยังมีอายุยืนยาวได้ถึงแปดสิบปี

9. หยุดโหยหาความรัก

สำหรับคนที่มีครอบครัว กลับมาดูแลคู่ชีวิตและลูกของคุณให้มากขึ้นดีกว่า เขาเหล่านั้นเป็นคนที่หวังดี

กับคุณเสมอโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ สำหรับชายโสด ไม่ง่ายที่จะหาคู่ชีวิตที่รักตัวคุณมากกว่ากระเป๋า

สตางค์ของคุณ หาสุนัขมาเลี้ยงยังจะง่ายกว่าอีก สำหรับหญิงโสด คุณคงชินกับชีวิตโสดแล้ว

และรู้ว่าอยู่คนเดียวสบายกายสบายใจที่สุดแล้ว

10. หยุดปิดกั้นจิตใจตัวเองจากการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

ช่วงเวลาที่ ผ่  า น มา คุณอาจจะพลาด  อะไรหลายๆ ไปเพราะการปิดใจตัวเองไว้

แค่คุณลองเปิดใจและเรียนรู้ คุณจะพบว่า โลกมันกว้างกว่าที่คิด อายุเลขห้า

ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ เลย คบกับ เ ด็ ก รุ่นใหม่บ้าง จะได้เข้าใจสังคม

ในยุคปัจจุบันนี้มากขึ้น และอีกอย่างคือลดปัญหาช่องว่างระหว่างวัยอีกด้วย

ขอบคุณแหล่งที่มา : san-sabai