ชาวบ้านงง! พระบิณฑบาต 10 โมง ยืนกดดันหน้าบ้าน ไม่รับอาหาร ขอปัจจัยนะโยม (มีคลิป)

กลายเป็นเรื่องราวที่มีการแชร์มากในโลกโซเซียล เมื่อวันที่ 13 พ.ค.62ที่ผ่าน จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “phume paradorn” ได้โพสต์ภาพ ขณะที่พระบิณฑบาต ยืนกดดันหน้าบ้าน ไม่รับอาหาร ขอปัจจัยนะโยม พร้อมข้อความผ่านกลุ่ม ศรีสะเกษทูเดย์

โดยมีข้อความระบุว่า…“มีใครโดนแบบนี้บ้างครับ ถึงเวลาจะมีพระมายืนรอหน้าบ้าน อาทิตย์ละบ่อยๆ ครั้ง ถ้าไม่ให้เงินก็จะยืนกดดันรอแบบนั้นนานๆ บางทีก็รู้สึกไม่ปลอดภัย ถ้าเราไม่ให้เงิน” และมีภาพพระสงฆ์ยืนถือบาตร รอรับบริจาค เป็นเงินอยู่หน้าบ้าน 3 รูป ภายหลังจากที่มีการโพสต์ข้อความแล้ว ก็มีผู้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่างๆนานา บ้างก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ และมีการให้เป็นเงินไปบ้าง

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสอบถามเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว ชื่อ นายภราดร อยู่เย็น เป็นครูอยู่ในโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง เล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนและครอบครัวได้เจอเหตุการณ์นี้มาทั้งหมด 3 ครั้ง โดยจะมีพระสงฆ์มาบิณฑบาตผิดเวลา คือ มาในช่วงเวลา 09.00-10.00 น. ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเป็นพระจริงหรือปลอม จึงได้ใส่บาตรเป็นปัจจัยเงินสดไป เพราะที่บ้านไม่ได้ทำอาหาร จึงไม่ได้มีกับข้าวไปถวาย

นายภราดร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามสัปดาห์ที่แล้ว ตนเจอเหตุการณ์แบบนี้มาด้วยกัน 3 ครั้ง จึงทนไม่ได้ เพราะทุกๆ ครั้งที่พระสงฆ์ท่านเดินทางมาที่หน้าบ้าน ก็จะส่งสัญญาณว่ามาถึงแล้วนะ บางครั้งก็ไอหรือทำเป็นมีเสียงดังหน้าบ้าน และยืนรอเป็นเวลานานๆ จึงตัดสินใจโพสต์ขอความคิดเห็นจากเพื่อนในสังคมออนไลน์ ซึ่งก็มีคนมาแสดงความคิดเห็นมากมายว่า เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้เหมือนกัน ต่างให้ความเห็นว่า น่าจะเป็นพระจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังไม่มีการยืนยัน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณบ้านดังกล่าว พบว่า บ้านอยู่ในซอยใกล้กับวัดป่าแห่งหนึ่ง และได้สอบถามชาวบ้านในละแวกนั้นก็ทราบว่า เจอเหตุการณ์นี้เหมือนกัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย นางอัมพร คำหล่อ เล่าว่า ตนอยู่ต้นซอยเมื่อมีคนเดินเข้าซอยมา ก็จะถึงบ้านตนก่อน จึงเจอเหตุการณ์นี้ก่อนใคร และได้สอบถามพระสงฆ์ไปเหมือนกันว่า มาจากไหน ท่านบอกว่ามาจาก จ.บุรีรัมย์ ซึ่งตนกำลังจะถวายอาหารแห้ง แต่พระเหล่านั้นปฏิเสธไม่รับอาหาร บอกว่าขอรับบิณฑบาตเป็นเงินแทน ตนจึงแปลกใจและไม่ได้ให้อะไรไปเลย เพราะไม่แน่ใจว่าเป็นพระสงฆ์จริงหรือไม่

ชมคลิป