Home »
Uncategories »
วิธีผ่อนบ้านอย่างไร ให้ลดดอกเบี้ยครึ่งล้าน
วิธีผ่อนบ้านอย่างไร ให้ลดดอกเบี้ยครึ่งล้าน
วิธีผ่อนบ้านอย่างไร ให้ลดดอกเบี้ยครึ่งล้าน
บ้านถือเป็นอีกหนึ่งทรัพย์สินที่ดี
เพราะสามารถเพิ่มมูลค่าได้เมื่อเวลาผ่านไป
แต่การมีบ้านหลังหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
เพราะทั้งมีมูลค่าสูงเเละใช้เวลาผ่อนนานหลายสิบปี
ซึ่งบางครั้งถ้าเกิดว่าคุณไม่รู้จักบริหารจัดการให้ดี “ดอกเบี้ย”
ที่คุณจ่ายอาจจะสูงกว่ามูลค่าของตัวบ้านก็ได้
วิธีคำนวณเปรียบเทียบการรีไฟแนนซ์บ้าน มูลค่าบ้าน
และดอกเบี้ยที่คุณต้องจ่าย มาให้เห็นคร่าวๆ กัน
ว่าการมีบ้านสักหลังต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงแค่ไหน
เเละการรีไฟแนนซ์บ้านจะช่วยลดค่าดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายได้เท่าไหร่?
รายละเอียดจะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน
**ข้อมูลในตารางคิดจากดอกเบี้ยผ่อนปกติ 6.5% ระยะเวลาผ่อนชำระ 30 ปี
เมื่อรีไฟแนนซ์ได้ดอกเบี้ยที่ 3.5% ต่อปี ผ่อน 30 ปี และรีไฟแนนซ์ทุกๆ 3
ปีที่อัตราดอกเบี้ย 3.5%
การรีไฟแนนซ์บ้าน ก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่จะช่วยลดดอกเบี้ยบ้านได้ ช่วยให้คุณมีเงินเหลือและนำเงินไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้
ขั้นตอนในการรีไฟแนนซ์บ้านมีอะไรบ้าง?
เป็นความจริงที่ว่าการรีไฟแนนซ์บ้านจะทำให้เราประหยัดเงินจากดอกเบี้ยได้เป็นแสน
แต่ก็ยังมีคนที่ทำการรีไฟแนนซ์บ้านอยู่น้อยมาก
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าไม่รู้ว่าการรีไฟแนนซ์ทำอย่างไร
ทำให้เสียโอกาสที่จะผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้นในที่สุด
รีไฟแนนซ์บ้านต้องเริ่มจากอะไร?
สิ่งแรกที่ทุกคนที่คิดจะรีไฟแนนซ์บ้านต้องทำก็คือ
ตรวจสอบสัญญากู้ของตัวเอง ว่ารีไฟแนนซ์ได้เมื่อไหร่
โดยส่วนมากสัญญากู้จะอนุญาตให้เรารีไฟแนนซ์บ้านไปธนาคารอื่น
(บางธนาคารใช้คำว่า ไถ่ถอน) หลังจากผ่อนมาแล้ว 3 ปี
คำแนะนำของผมคือ
คุณสามารถทำเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารใหม่ได้ตั้งแต่ก่อนผ่อนครบ 3 ปี
เพราะธนาคารใหม่ต้องใช้เวลาพิจารณา ประเมินราคา และทำเรื่องอนุมัติสินเชื่อ
คุณจึงสามารถยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารใหม่ได้
ตั้งแต่ 1-2 เดือนก่อนครบสัญญา เลือกธนาคารที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง
การรีไฟแนนซ์บ้านนั้นมีมากกว่า 100 โปรโมชั่นให้เลือก ถ้าเลือกดีๆ
ได้ตัวที่ดอกเบี้ยถูกที่สุด จะประหยัดดอกเบี้ยได้หลักแสน
แต่ถ้าโชคไม่ดีไปเลือกตัวที่ดอกเบี้ยไม่ได้ถูกมาก
จะประหยัดได้หลักพันบาทเท่านั้น
ขอแนะนำเว็บไซต์ Refinn
ที่เป็นตัวช่วยคำนวณและเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน จาก 15
ธนาคารชั้นนำ โดยสามารถเข้าไปดูที่ www.refinn.com ได้เลยครับ
และสำหรับคนที่สนใจให้ Refinn ช่วยดำเนินการรีไฟแนนซ์
ด้วยการเดินเรื่องและประสานงานกับธนาคารก็สามารถสมัครรีไฟแนนซ์บ้านผ่าน
Refinn ได้ฟรี ไม่มีค่าบริการครับ
เตรียมเอกสารประกอบการยื่นรีไฟแนนซ์
เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการยยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้าน มีทั้งหมด 3 ประเภท
เอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน สำเนาเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง
เอกสารด้านหลักประกัน เช่น โฉนดที่ดิน สัญญาเงินกู้ธนาคารเดิม
แต่ก็จะมีแตกต่างกันไปแล้วแต่ธนาคารที่เราไปรีไฟแนนซ์ มีรายละเอียดเพิ่มเติมในบทความเอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้าน
ยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่
ปกติแล้วหลังจากที่ยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์พร้อมส่งเอกสารเรียบร้อย
ธนาคารจะทำการนัดหมายเพื่อส่งคนมาประเมินราคาหลักประกัน
และใช้เวลาพิจารณาอนุมัติประมาณ 2-4 สัปดาห์
ผมจึงอยากแนะนำให้ยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์ก่อนผ่อนครบ 3 ปี ได้เลยครับ
จะได้พอดีกัน
ถ้าธนาคารเก่าจะลดดอกเบี้ยให้ ควรอยู่ที่เดิมหรือรีไฟแนนซ์ดี
จากประสบการณ์ของผม เวลาไปขอลดดอกเบี้ยจากธนาคารเดิม
เค้าจะลดให้นิดเดียวเท่านั้น จากปัจจุบันดอกเบี้ย 7.7%
จะลดดอกเบี้ยให้เหลือ 5.5% ทั้งๆ ที่ธนาคารใหม่ที่ผมจะรีไฟแนนซ์ ดอกเบี้ย
2.90% เพราะธนาคารเดิมจะบอกว่าถ้ารีไฟแนนซ์ไปที่ใหม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
แต่ถ้าลองคำนวณดูจะพบเลยว่า
ค่าใช้จ่ายนิดเดียวแต่ประหยัดกว่าเดือนละหลายพัน
รีไฟแนนซ์จึงคุ้มกว่ามากครับ
(สามารถอ่านบทความที่ผมคำนวณเปรียบเทียบให้เห็นชัดๆ ได้ที่บทความรีไฟแนนซ์
กับ ลดดอกเบี้ยธนาคารเดิม แบบไหนคุ้มกว่ากัน?)
สอบถามยอดหนี้คงเหลือ และนัดวันไถ่ถอนจากธนาคารเก่า
เมื่อได้รับการอนุมัติจากธนาคารใหม่แล้ว
เจ้าหน้าที่ธนาคารจะแจ้งให้เราไปสอบถามยอดหนี้คงเหลือและนัดวันไถ่ถอนจากธนาคารเก่า
เพื่อให้ธนาคารใหม่และธนาคารเก่าสามารถโอนหนี้ให้กันได้อย่างถูกต้อง
ไปทำสัญญาและจดจำนองที่กรมที่ดิน
เพื่อให้ไม่เป็นการรบกวนเวลาลูกค้ามากจนเกินไป
เจ้าหน้าที่จากธนาคารใหม่จะถือสัญญาไปให้เซ็นที่กรมที่ดิน
พร้อมๆกับการไปทำสัญญาจำนองที่กรมที่ดินในวันเดียวกันเลย
เพื่อความสะดวกของทางลูกค้าเอง
มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
การรีไฟแนนซ์บ้านจะมีค่าใช้จ่ายหลักๆอยู่ 5 อย่าง คือ
ค่าประเมินราคา ประมาณ 2-3 พันบาท (โปรโมชั่นบางธนาคาร ฟรีค่าประเมินราคาครับ)
ค่าจดจำนอง จ่ายให้กรมที่ดิน 1% ของวงเงินกู้ (โปรโมชั่นบางธนาคาร ฟรีค่าจดจำนองครับ)
ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงิน
ค่าธรรมเนียมอื่นๆ ของธนาคาร เช่น ค่าธรรมเนียมสินเชื่อ
ประกันอัคคีภัย (ซึ่งประกันอัคคีภัย ถึงเราไม่ได้รีไฟแนนซ์ ก็ต้องทำทุก 1-3 ปี ตามกฎหมายครับ)
ซึ่งหลายๆธนาคารก็ออกมาแข่งกันฟรีค่าธรรมเนียมเหล่านี้
เพื่อดึงดูดลูดค้า และมีการอัพเดทอยู่บ่อยๆ หากต้องการเช็คโปรโมชั่นล่าสุด
ว่าแต่ละธนาคารให้ดอกเบี้ยเท่าไหร่และฟรีค่าธรรมเนียมอะไรบ้าง
สามารถเข้าไปดูที่ www.refinn.com ได้เลยครับ
ขอขอบคุณ : เพจ FINSTREET ,refinn.com