Home »
Uncategories »
เคล็ดลับการนอนหลับสบาย จากจีนโบราณ ที่จะทำให้คุณแข็งแรงขึ้นในพริบตา
เคล็ดลับการนอนหลับสบาย จากจีนโบราณ ที่จะทำให้คุณแข็งแรงขึ้นในพริบตา
วิธีโบราณจากจีนกว่าพันปี เคล็ดลับการนอนหลับที่จะทำให้คุณแข็งแรงขึ้นในพริบตาเคล็ดลับ “การนอนหลับ”จากจีนกว่าพันปี ที่จะทำให้คุณแข็งแรงขึ้นในพริบตา
อย่าลืมเอาวิธีโบราณไปลองใช้กันดูนะคะ
คุณเคยมีความรู้สึกนี้หรือไม่
? เคยนอนหลับแล้วรู้สึกว่ามือเท้าเย็น หนาวสั่นที่หลัง นี่อาจเป็นเพราะว่า
“หยาง” ในร่างกายคุณนั้นไม่เพียงพอ ซึ่งตามหลักแพทย์แผนจีนแล้ว
อาการขาดหยางมากเกินไป อาจทำให้ภูมิคุ้มกันของในร่างกายบกพร่องได้
และคัมภีร์แพทย์แผนจีนโบราณหลายเล่มยังได้บันทึกไว้อีกด้วยว่า
“การบำรุงด้วยอาหารย่อมดีกว่าบำรุงด้วยยา
แต่การนอนหลับพักผ่อนนั้นถือเป็นยาบำรุงที่ดีที่สุด”
บางเล่มยังได้มีการบันทึกเอาอีกไว้ว่า
“ยาร้อยชนิดก็ไม่สู้การนอนหลับพักผ่อน”
การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
หรือคุณภาพในการนอนไม่ดี อาจทำให้มีผลกระทบต่ออารมณ์ สมาธิ
หรือแม้กระทั่งเกิดอาการปวดหัว เวียนหัว ปวดกล้ามเนื้อ
หรืออ่อนเพลียขึ้นได้ ในตำราแพทย์แผนจีนกล่าวไว้ว่า
คนที่นอนพักไม่เพียงพอมาเป็นเวลานานจะอยู่ในสภาวะร่างกายอ่อนแอ
ในสภาวะเช่นนี้จะทำให้พลังหยางในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง
ส่งผลกระทบต่อกับอวัยวะภายในอย่างสัมพันธ์กัน
และถ้าหากคุณไม่ได้เข้านอนภายในระยะเวลาที่เหมาะสม คือช่วงเวลา 5 ทุ่มถึงตี
1 อาจจะทำให้อาการป่วยเดิมที่มีในร่างกายอยู่แล้วมีอาการแย่ลงได้
ในสมัยโบราณแพทย์จึงมักจะปฏิเสธการรักษาแก่คนไข้ที่นอนหลับพักผ่อนมาไม่เพียงพอ
อันตรายที่เกิดจากการที่นอนพักผ่อนไม่เพียงพอนั้นมีมากมายกว่าที่คุณคิด
เพราะไม่ว่าคุณจะรับประทานอาหารเสริมหรือออกกำลังกายเป็นประจำแล้วก็ตาม
ก็ยังไม่สามารถทดแทนอาการนอนหลับไม่เพียงพอได้เลย
คนที่นอนดึกเป็นประจำมักจะมีอารมณ์แปรปรวน สายตาไม่ดี
บางรายมีอาการของโรคซึมเศร้าร่วมด้วย
บางคนอาจคิดว่าค่อยไปนอนกลางวันเอาในภายหลังก็ได้ แต่จริง ๆ
แล้วนั่นไม่ได้ช่วยให้อาการดีขึ้นเลย
วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับการนอนโบราณที่สามารถช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ
เหล่านี้ได้มาแนะนำ
1. เพิ่มพลังหยาง
คุณสามารถฝึกฝนนอนในท่านี้ได้ทุกวันก่อนเข้านอน
โดยนอนราบไปกับพื้น แยกเข่าออก งอขา และนำฝ่าเท้ามาประกบกัน
โดยเท้าทั้งสองข้างจะต้องอยู่กึ่งกลางของลำตัวพอดี
ฝ่ามือทั้งสองวางแปะไว้บนท้องน้อย
จากนั้นให้ฝึกลมหายใจเข้าออกด้วยขณะทำท่านี้ ให้หายใจเข้าทางจมูก
และหายใจออกทางปาก โดยควบคุมให้ลมหายใจเข้าไปในท้องน้อย
ฝึกท่านี้ต่อเนื่องทุกวัน ครั้งละครึ่งชั่วโมง
2. ผสานพลังหยวน
หลังจากที่ฝึกนอนด้วยท่าแรกได้แล้วเป็นเวลา
1 เดือน ให้ฝึกฝนท่านอนนี้ต่อ โดยส่วนขาให้ทำท่าเหมือนกับท่าแรก
แต่ต่างกันที่มือทั้งสองข้างนำมาประสานกัน และวางไว้บนศีรษะของตัวเอง
สิ่งที่ควรระมัดระวังขณะนอนหลับ
1. ทิศการนอน
ศีรษะควรหันไปทางทิศเหนือ
ส่วนปลายขาให้หันไปทางทิศใต้ เพื่อเป็นไปตามทิศทางของสนามแม่เหล็กโลก
เพราะในขณะนอนหลับ สมองของเราจะได้รับคลื่นแม่เหล็กอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้นการนอนในทิศทางนี้จึงสามารถช่วยให้กระแสของคลื่นแม่เหล็กขนานไปกับร่างกายเรา
และเกิดความสมดุลตามความเชื่อของแพทย์แผนจีน
2. ท่าทางการนอน
นอนตะแคงข้าง
และขดตัวคล้ายกับรูปคันธนู ไปพร้อมกับหันหน้าไปทางขวามือ
เพื่อจะช่วยให้หัวใจเราทำงานได้สะดวกขึ้น
เพราะหัวใจจะได้ไม่ต้องแบกรับภาระน้ำหนักตัวของทางฝั่งขวามากดทับ
3. ระยะเวลานอนหลับ
ควรนอนดึกตื่นเช้าในฤดูใบไม้ผลิ
ส่วนฤดูใบไม้ร่วงควรเข้านอนเร็วและตื่นเช้า
ส่วนในฤดูหนาวควรเข้านอนเร็วและตื่นสาย ควรรักษาระยะเวลานอนให้ได้วันละ 8
ชั่วโมงทุกวัน และมากกว่านี้สำหรับผู้มีอาการป่วย
4. ช่วงเวลาการนอน
ไม่ว่าคุณจะเป็นคนทำงานกะดึกหรือเช้าก็ตาม
ควรจะมีช่วงเวลาการนอนที่เหมาะสมกับชีวิตประจำวันและร่างกายของคุณ
ระยะเวลาเข้านอนที่เหมาะสมตามตำราแพทย์แผนจีน คือ ตั้งแต่ 5
ทุ่มเป็นต้นไปจนถึงตี 1 และตั้งแต่ 11 โมงเป็นต้นไปจนถึงบ่าย 1 โมง
เพราะในช่วงเวลานี้จะเกิดอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงในร่างกาย
จึงเหมาะสมที่สุดแก่การเข้านอน
5. สภาพแวดล้อมในการนอน
ในห้องนอน
ไม่ควรมีเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือจำกัดให้น้อยที่สุด
เพื่อป้องกันร่างกายได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อสมอง
และไม่ควรสวมใส่นาฬิกา ฟันปลอม หรือจับโทรศัพท์มือถือไว้ขณะนอนหลับด้วย
เป็นอย่างไรบ้างคะกับเคล็ดลับต่าง
ๆ ที่เราได้แนะนำไป หวังว่าต่อไปนี้เพื่อนๆจะนอนได้อย่างถูกต้อง
และมีสุขภาพแข็งแรงขึ้นนะคะ และอย่าลืมแบ่งปันบทความดี ๆ
แบบนี้ให้แก่คนที่คุณรักอ่านกันด้วยนะคะ
ชอบคุณแหล่งที่มา : โพสต์โนเนม