กระเป๋าสตางค์เศรษฐี เคล็ดลับใช้เงินบาทดูดเงินล้าน ที่หลายคนมองข้ามจนพลาดโอกาสรวย

จงรู้คุณค่าของเงิน เราถูกพร่ำสอนอย่างนี้มาตั้งแต่เล็กแต่น้อย แต่จะมีสักกี่คนที่เข้าใจจริง เราสัมผัสจับต้องเศษเหรียญกันทุกวัน แต่หลายคนกลับมองว่า มันไร้ค่า หนักกระเป๋า และพยายามกำจัดเศษเหรียญให้หมดๆไปโดยเร็ว

“จงก้มลงเก็บเหรียญหนึ่งบาทที่หล่นอยู่ แล้วคุณจะกลายเป็นที่รักของเงิน” ถ้าอยากเป็นคนหาเงินเก่งไม่ขัดสนเงินทอง ลองหยิบเศษเหรียญในกระเป๋าขึ้นมา แล้วเงี่ยหูฟังว่ามันกำลังบอกอะไรกับเราบ้าง การทิ้งขว้างเศษเหรียญอย่างไม่ไยดีเท่ากับเป็นการโยนโอกาสพลิกชีวิตทิ้งไปด้วย คนรวยๆและหาเงินเก่งจำนวนมากล่วงรู้ความลับเรื่องคุณค่าของเศษเหรียญมานานแล้ว และสร้างชีวิตที่มั่งคั่งขึ้นจากการเก็บเล็กผสมน้อยทุกเศษสตางค์

ถ้าไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน “คะเมะดะ จุนอิชิโร” ผู้สอบบัญชีภาษีอากร ที่ผันตัวมาเป็นที่ปรึกษาของประธานบริษัทใหญ่ๆหลายแห่งในญี่ปุ่น แนะนำไว้ในหนังสือ “ความลับของเศษเหรียญ ใช้เงิน ก้อนเล็กดึงดูดเงินก้อนโต” ใครอยากหาเงินเก่งหยิบจับอะไรก็รวย ควรเริ่มจากการจัดกระเป๋าสตางค์ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และพกกระเป๋า ใส่เหรียญเพื่อจะได้ไม่ทำเงินหล่นหายอย่างไร้ค่า

จากประสบการณ์ที่ได้ทำงานใกล้ชิดผู้บริหารและนักธุรกิจจำนวนมาก เขาสังเกตเห็นว่ากระเป๋าสตางค์ของคนที่หาเงินเก่งมักเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่เสมอ ข้างในจะมีแค่เงินสด, บัตรเครดิตหนึ่งใบ และของที่ใช้วันนี้เท่านั้น จะไม่มีการเผื่อพื้นที่สำหรับของที่อาจได้ใช้ หรือพกไว้เพื่ออุ่นใจ นี่เป็นกฎพื้นฐานที่ได้เรียนรู้จากกระเป๋าสตางค์เศรษฐี

กุญแจสำคัญของการจัดระเบียบกระเป๋าสตางค์เพื่อความมั่งคั่งคือ ห้ามใส่ของที่ไม่ใช้วันนี้ลงไปเด็ดขาด เรามักพกทุกอย่างไว้เต็มกระเป๋าสตางค์ ทั้งใบเสร็จ, สลิป, บัตรเครดิตหลายใบ, บัตรเอทีเอ็ม, บัตรสะสมแต้ม, บัตรสมาชิกห้างสรรพสินค้า, บัตรลดราคาร้านอาหาร, บัตรประกันสังคม และอีกสารพัดบัตร ถ้าอยากเป็นคนหาเงินเก่ง สร้างพลังดึงดูดเงินให้กระเป๋าสตางค์ จงเคลียร์สิ่งเหล่านี้ออกไปทันที แล้วเหลือไว้เฉพาะ “ของที่ต้องใช้วันนี้” เท่านั้น

พวกใบเสร็จและสลิปต่างๆย้ายไปเก็บในซองต่างหาก ไม่ควรอัดแน่นอยู่ในกระเป๋าสตางค์ ส่วนบัตรสะสมแต้มบัตรส่วนลดที่ยังไม่ได้ใช้วันนี้ก็ให้แยกรวมกันในอีกซอง สำหรับคนที่บริหารกระเป๋าสตางค์เก่งๆสามารถลดบัตรเครดิตในกระเป๋าสตางค์เพียงใบเดียว เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายให้อยู่หมัด เพราะการมีบัตรเครดิตมากเกินไปทำให้ใช้เงินฟุ่มเฟือย

แค่เปิดดูกระเป๋าสตางค์ของใครสักคนก็จะทำนายได้แล้วว่าเขาเป็นคนแบบไหน คนที่ไร้ระเบียบไม่เห็นคุณค่าของเงิน กระเป๋าสตางค์มักจะบวมเป่ง เต็มไปด้วยบัตรและใบเสร็จมากมาย พวกนี้จะพกบัตรเยอะไปหมดจนใส่ในช่องไม่พอ ความหนาของบัตรทำให้กระเป๋าสตางค์ดูอ้วนพองจนน่าอึดอัด

แต่ถ้าเป็นเศรษฐีที่หาเงินเก่ง พวกเขาจะทะนุถนอมกระเป๋าสตางค์อย่างดี และมักนิยมใช้กระเป๋าสตางค์ทรงยาว ซึ่งภายในมีเพียงธนบัตรที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบกับบัตรเครดิตและบัตรเอทีเอ็มอย่างละ 1 ใบ การจัดระเบียบข้างในกระเป๋าสตางค์เป็นกลยุทธ์ให้เราสามารถควบคุมทางออกของเงิน

“กระเป๋าใส่เหรียญ” ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการอุดรอยรั่วไหลของเงิน เศรษฐีที่หาเงินเก่งๆเกือบทุกคนจะต้องพกกระเป๋าใส่เหรียญคู่กับกระเป๋าสตางค์ กระเป๋าใส่เหรียญจะหยุดเราไม่ให้ซื้อของตาม อำเภอใจ ทำให้ลดความฟุ่มเฟือยไปได้เยอะ และมีเงินเหลือในบัญชีเพิ่มขึ้น

สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้เราเป็นที่รักของเงินคือ เวลาใช้เศษเหรียญ ต้องพยายามใช้อย่างใส่ใจในแบบที่ทำให้เหรียญมีความสุข เลิกมองว่าเศษเหรียญเป็นของเกะกะกินที่ และต้องรีบใช้ๆมันให้หมดไป

ขอบคุณข้อมูล khaothai.net