จากกรณีโลกโซเชียลแห่แชร์คลิปไลฟ์สดผ่าน facebook น้องมะนาว วัย 26 ปี เจ้าสาว วิวาห์ล่ม เมื่อวันที่ 22 ก.ค.61 ที่ผ่านมา โดยเป็นภาพบรรยากาศงานแต่งงานของตนเองภายในศาลาประชาคมวัดพิกุลทอง ตำบลพิกุลทอง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ท่ามกลางแขกจำนวนมาก คนดังในจังหวัดราชบุรี มาร่วมยินดีในงาน ขณะที่เจ้าสาวในชุดเจ้าสาวสวยสง่า ขึ้นพูดผ่านไมโครโฟนบนเวที ขออภัยแขกที่มาร่วมงาน เพราะเจ้าบ่าวไม่มางานแต่ง โดยเสียงสั่นเครือร่ำไห้กลางเวที แต่งานยังคงต้องเดินหน้าจนจบ จากงานวิวาห์กลายเป็นงานทำบุญบ้านและงานของครอบครัว ก่อนจะเกิดดราม่าแฉกันนัวตามมาอีกนั้น ทั้งเรื่องฝ่ายชายไปอยู่กับหญิงอื่น เรื่องปัญหาสินสอด เรื่องให้อาของเจ้าบ่าวมาสวมเป็นเจ้าบ่าวแทน
เจ้าบ่าว เปิดใจครั้งแรก แบบหมดเปลือก ตนรู้จักกับทางฝ่ายเจ้าสาวจริง โดยเริ่มจากเมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน มะนาวได้ขอแอดเพื่อนในเฟซบุ๊กมา ตนจึงได้เข้าไปรู้โปรไฟล์ของเขา และเห็นว่าเป็นคนน่ารักดีจึงได้รับแอดไว้
หลังจากที่เป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊กแล้ว มะนาวก็ได้ทักทายและพูดคุย ซึ่งก็ได้พิมพ์โต้ตอบกันนาน 1 สัปดาห์ ซึ่งการพูดคุยก็เหมือนทักทายกันของวัยรุ่นหนุ่มสาวทั่วไป จนเกิดความสนิทสนมกัน จากนั้นตนเองก็ได้เอ่ยปากชวนมะนาวไปกินข้าวเย็นกัน หลังจากที่มะนาวเลิกจากงาน
จากนั้นก็ไปเที่ยวสถานบันเทิงกันต่อจนดึกและก็ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน แต่ตนก็ยืนยันว่ามีการใส่ถุงยางอนามัย มีความสัมพันธ์กันเพียงครั้งเดียว หลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์ตนก็เริ่มที่จะตีตัวออกห่างตามประสาวัยรุ่น อีกทั้งตนก็มีแฟนสาวอยู่แล้ว ตนจึงได้เลิกกับทางฝ่ายมะนาวและก็ห่างกันไป
หลังจากที่ห่างกันไป นานๆ ก็จะติดต่อกัน จนฝ่ายมะนาวได้บอกกับตนเองว่าท้อง ตนก็นิ่งไปและก็ตกใจว่าท้องได้อย่างไร เพราะตนมั่นใจว่าไม่น่าใช่ เพราะตอนนั้นตนใส่ถุงยางอนามัยป้องกัน แล้วจู่ๆ พ่อของตนได้มาแจ้งกับตนว่า มีหญิงสาวชื่อ มะนาว มาบอกว่าท้องกับลูกตนเองและจะให้ไปสู่ขอ
โดยที่ทางมะนาวตกลงว่าจะเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องสินสอดทองหมั้นทั้งหมด และให้ไปตกลงกับทางบ้าน ซึ่งทางครอบครัวก็เดินทางไปตกลงกับทางฝ่ายเจ้าสาว ก็ยกกันไป 7 คน มีการพูดคุยตกลงกันตามที่มะนาวให้ข้อมูลไว้ ก่อนที่จะเดินทางกลับ
ตนเองก็ยืนยันว่าไม่มีเงินมากขนาดนั้น อีกทั้งตนเองก็เลิกกับทางฝ่ายมะนาวไปแล้ว แต่ที่มีตกลงแต่งงานกันนั้นเพราะมะนาวบอกว่าต้องแต่งกับตน ทั้งๆ ที่ตนเองไม่ได้รักและหมดใจไปแล้ว และให้ตนเองไปถ่ายภาพพรีเว็ดดิ้ง ตนเองก็เดินทางไป
จากนั้นก็ตกลงกับทางมะนาวว่า จะยอมแต่งให้แต่งเสร็จก็เลิกกัน แต่เมื่อถึงวันงาน ด้วยความที่ทางฝ่ายเจ้าสาวให้ตนเองหาเงิน 1 แสนบาทมาเป็นเงินสินสอด ตนไม่มีเงินจึงเกิดความเครียด เพราะผิดจากที่ตกลงไว้ในครั้งแรก เมื่อถึงวันงานตนจึงหลบหนีไป
ทั้งนี้ อยากวอนสังคมเข้าใจตนเองบ้าง เพราะตนเองไม่ได้รักฝ่ายเจ้าสาว เป็นความสัมพันธ์แค่คืนเดียว และได้เลิกราไปแล้ว แต่ที่มาแต่งเพราะเข้าใจว่าทางฝ่ายสาวท้อง ตนจึงแสดงความรับผิดชอบมาแต่งงานดังกล่าว แต่ก็มาถูกบีบด้วยเงินค่าสินสอดดังกล่าว
ขณะที่พ่อวัย 36 ของเจ้าบ่าว กล่าวว่า ตนเองต้องขอโทษทางฝ่ายเจ้าสาวผู้เสียหาย และอยากขอความเห็นใจจากสังคมด้วย เมื่อวันงานตนและญาติๆ ก็ได้เตรียมความพร้อมทั้งต้นกล้วย ต้นอ้อย ผ้ารับไหว้ ซองผ่านประตู 40 ซอง และเงินสดอีกจำนวน 60,000 บาท ตามที่ทางฝ่ายเจ้าสาวตกลงไว้ ซึ่งตั้งแต่วันแรก ตนก็ทำตามที่ทางฝ่ายเจ้าสาวบอก ทั้งในเรื่องของเงินสินสอดทองหมั้นที่ทางฝ่ายสาวจะเป็นผู้เตรียมไว้ให้ แต่เมื่อถึงเวลาจริง กลับให้เราต้องมาออกเอง ก่อนจะตกลงกันก่อนวันงานเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อรองกันจนเหลือ 60,000 บาท แต่ก็ไม่ได้แจ้งลูกชายทราบ เพราะคิดว่าคนสองคนจะคุยกันแล้ว เมื่อถึงช่วงค่ำ ปรากฏว่าลูกชายหายไป ตนก็ได้ออกตามหาตั้งแต่ 5 ทุ่ม โทรไปไม่รับสาย จน เวลา 03.00 น. ตนเองได้โทรตามอีก ก็โทรไม่ติด และไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย
ทั้งนี้ตนก็ได้ให้ญาติติดต่อไปทางฝ่ายเจ้าสาวเพื่อแจ้งให้ทราบว่าลูกชายหายไป และต้องการยืนยันว่าจะยกขันหมากไป แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ ซึ่งตนเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ได้แต่เสียใจและเดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ตนอยากขอโทษทางฝ่ายเจ้าสาวแทนลูกชายและครอบครัว หากทางฝ่ายเจ้าสาวจะดำเนินคดีอย่างไรก็ต้องพูดคุยกันอีกครั้ง ซึ่งทางครอบครัวก็ยินดีที่จะหันหน้าเข้าเจรจากัน
ที่มา : ข่าวสด