คุณเลือกกิน “ส่วนไหนของปลา” เป็นอันดับแรก ลักษณะการกินที่ทายนิสัย ว่าคุณเป็นคนอย่างไร?

ปลา เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำ เป็นสัตว์เลือดเย็น หายใจด้วยเหงือกและมีกระดูกสันหลัง สามารถเคลื่อนไหวไปมาด้วยครีบและกล้ามเนื้อของลำตัว บางชนิดมีเกล็ดปกคลุมทั่วตัว บางชนิดไม่มีเกล็ดแต่ปกคลุมด้วยเมือกลื่น ๆ หรือแผ่นกระดูก มีหัวใจสองห้องและมีขากรรไกร


เลือกกินส่วน A ก่อน แสดงว่าคุณเป็นคนหัวดื้อ 40%
ชอบพูดหรือแสดงออกว่าตนเองไม่โดดเดี่ยว แต่ลึกในใจแล้วรู้สึกเหงามาก ชอบทำให้คนอื่นเข้าใจผิด แต่ก็ไม่ชอบที่จะไปอธิบาย ทำให้ต้องโดดเดี่ยว เดียวดาย ที่จริงไม่ใช่ว่าจะไม่มีคนเคียงข้างคุณ เพียงแต่ว่าคนที่คุณต้องการไม่อยู่เคียงข้าง เป็นคนให้ความสำคัญต่อความรู้สึก ขอเพียงแค่เป็นเพื่อนที่ดีจริงใจ คุณก็จะตอบแทนเขาด้วยความจริงใจเช่นกัน ไม่ชอบเป็นฝ่ายรุก หรือติดต่อเพื่อนฝูงก่อน เพราะบ่อยครัั้งที่ชอบทำเป็นคนเข้มแข็ง แต่ที่จริงข้างในอ่อนแอมาก

ลือกกินส่วน B ก่อน แสดงว่าคุณเป็นคนหัวดื้อ 60%
คุณสามารถทำทุกสิ่งได้อย่างไม่คิดชีวิต เพื่อหวังที่จะให้เขายอมรับและเชื่อใจคุณ! แต่ไม่ชอบแสดงออกถึงอารมณ์ ความรู้สึกจากข้างใน จึงมักใช้ความเงียบสงบแทนการแสดงออก ดูจากบุคลิกภายนอกเป็นคนเข้มแข็ง ปากแข็ง แต่ที่จริงภายในบอบบาง บอบช้ำได้ง่าย ชอบสรรหาสิ่งต่างๆทำเพื่อระบายอารมณ์เพียงคำเดียว ไม่ชอบการอธิบายมาก

เลือกกินส่วน C ก่อน แสดงว่าคุณเป็นคนหัวดื้อ 80%
เป็นคนกระตือรือร้นและมีสัมผัสที่หกมาแต่กำเนิด เป็นคนมีความเข้าใจอันลึกซึ้ง เกี่ยวกับเรื่องในหัวใจของมนุษย์ คุณเป็นคนพูดเก่ง สามารถหาเรื่องพูดคุยได้ทุกเรื่อง แต่ไม่ค่อยชอบคุยเรื่องเกี่ยวกับตนเอง ชอบพูดคุยเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตนเอง เป็นคนเชื่อในความรักมาก ถ้าได้รักใครก็จะทุ่มเทลงไปและรับผิดชอบต่อความรัก เป็นคนยอมที่จะเสียสละ เป็นคนคิดอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ค่อยฉลาด ใจกว้าง มีน้ำใจ เห็นอกเห็นใจคนอื่น

เลือกกินส่วน D ก่อน แสดงว่าคุณเป็นคนหัวดื้อ 99%
หากไม่ชอบใครก็จะแสดงออกอย่างชัดเจน เป็นคนเสแสร้ง แกล้งทำไม่เป็น จะปฏิเสธที่จะคบหากับคนที่ตีสองหน้า เป็นคนละเอียดอ่อนมาก และมีจิตใจที่แข็งแกร่งมาก หากเป็นคนหรือสิ่งที่คุณชื่นชอบก็จะตั้งใจและเอาใจใส่เป็นพิเศษ หากวันหนึ่งคุณรู้สึกคลื่นไส้ ,เบื่อหน่ายก็จะหนีจากไปเอง คุณเป็นคนที่ไม่ชอบโกรธโมโหง่าย แต่เมื่อใดที่คุณโกรธขึ้นมา เหมือนภูเขาไฟระเบิดก็ไม่ปาน รุ่นแรงน่ากลัวมาก


ขอขอบคุณข้อมูลจาก : siamnews.com