สาวร้องเพจ แหม่มโพธิ์ดำ ซื้อบ้านด้วยเงินสด เจ้าของเดิมไม่ยอมโอน ทำสูญเงินล้าน แถมใช้ชีวิตปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2560 เพจเฟซบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ ได้โพสต์เรื่องราวจากผู้เสียหายที่ส่งเรื่องเข้ามาเตือนเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้แก่คนที่อยากมีบ้าน คิดซื้อบ้านด้วยเงินสด เพื่อระวัง และจะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อเหมือนกับตัวเอง โดยเจ้าของเรื่องระบุว่า ...
ได้ซื้อบ้านด้วยเงินสดและทำสัญญากับคนที่อ้างว่าตัวเองเป็นเจ้าของโครงการ ซึ่งเจ้าของโครงการก็บอกว่าถ้าซื้อเงินสดสามารถเริ่มสร้างและโอนได้เลยเมื่อเสร็จสมบูรณ์ ไม่มีปัญหา แต่ต้องจ่ายมาก่อนครึ่งหนึ่งเพื่อทำการเร่งสร้างให้เสร็จตามกำหนดที่คุยกัน ซึ่งผู้เสียหายก็จ่ายเงินไป 1 ล้านบาท และจ่ายค่าทำเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินอีก ราว 7 แสนบาท โดยมีสัญญาอย่างชัดเจน พร้อมระบุวันโอน
แต่พอถึงวันโอนตามสัญญา
เจ้าของโครงการกลับอ้างว่าบ้านของตนสร้างชิดที่ดินของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตการสร้างชิดพื้นที่
จึงขอเวลาเคลียร์ปัญหาก่อน และทำสัญญาแนบท้ายระบุวันโอนมาให้ใหม่
และหลังจากนั้นก็ถูกบ่ายเบี่ยงที่จะโอนมาตลอด
ก่อนที่เจ้าของเรื่องจะมาทราบความจริงเองทีหลังว่า
ที่ไม่สามารถโอนบ้านได้เพราะติดจำนอง
ด้วยเหตุนี้ จึงไปทวงถามความจริงก็ได้รับคำตอบว่า ผู้รับจำนองกับเจ้าของโครงการทำธุรกิจร่วมกัน สร้างบ้านขายด้วยกัน แต่พอมีปัญหา ต่างคนต่างโบ้ยความผิดให้กันไปมาตลอด 2 ปี ตนให้โอกาสเคลียร์ปัญหาให้จบแต่ก็ไม่เป็นผล เจ้าของโครงการไม่คิดแก้ปัญหาจริง ๆ กลับโกหกไปเรื่อย พูดจาดี สตอรี่ดี แต่หลอกลวงทุกอย่าง
ซึ่งตอนนี้ทนายฟ้องคดีผิดสัญญาและศาลตัดสินให้เจ้าของโครงการคืนเงินพร้อมดอกเบี้ย รวม 3 ล้านบาท แต่ก็ไม่เห็นสะทกสะท้าน ปล่อยให้บังคับคดียึดบ้านและที่ดินที่จอดรถเพื่อขายทอดตลาด แต่แปลกตรงที่บ้านตนนั้นยังไม่ได้ขาย แต่ที่จอดรถของเจ้าของโครงการขายแล้ว ซึ่งตนก็ไม่ได้เงิน แถมเจ้าของโครงการก็ยังใช้ที่จอดรถปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ภาพและข้อมูลจาก เพจเฟซบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2560 เพจเฟซบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ ได้โพสต์เรื่องราวจากผู้เสียหายที่ส่งเรื่องเข้ามาเตือนเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้แก่คนที่อยากมีบ้าน คิดซื้อบ้านด้วยเงินสด เพื่อระวัง และจะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อเหมือนกับตัวเอง โดยเจ้าของเรื่องระบุว่า ...
ได้ซื้อบ้านด้วยเงินสดและทำสัญญากับคนที่อ้างว่าตัวเองเป็นเจ้าของโครงการ ซึ่งเจ้าของโครงการก็บอกว่าถ้าซื้อเงินสดสามารถเริ่มสร้างและโอนได้เลยเมื่อเสร็จสมบูรณ์ ไม่มีปัญหา แต่ต้องจ่ายมาก่อนครึ่งหนึ่งเพื่อทำการเร่งสร้างให้เสร็จตามกำหนดที่คุยกัน ซึ่งผู้เสียหายก็จ่ายเงินไป 1 ล้านบาท และจ่ายค่าทำเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินอีก ราว 7 แสนบาท โดยมีสัญญาอย่างชัดเจน พร้อมระบุวันโอน
ด้วยเหตุนี้ จึงไปทวงถามความจริงก็ได้รับคำตอบว่า ผู้รับจำนองกับเจ้าของโครงการทำธุรกิจร่วมกัน สร้างบ้านขายด้วยกัน แต่พอมีปัญหา ต่างคนต่างโบ้ยความผิดให้กันไปมาตลอด 2 ปี ตนให้โอกาสเคลียร์ปัญหาให้จบแต่ก็ไม่เป็นผล เจ้าของโครงการไม่คิดแก้ปัญหาจริง ๆ กลับโกหกไปเรื่อย พูดจาดี สตอรี่ดี แต่หลอกลวงทุกอย่าง
ซึ่งตอนนี้ทนายฟ้องคดีผิดสัญญาและศาลตัดสินให้เจ้าของโครงการคืนเงินพร้อมดอกเบี้ย รวม 3 ล้านบาท แต่ก็ไม่เห็นสะทกสะท้าน ปล่อยให้บังคับคดียึดบ้านและที่ดินที่จอดรถเพื่อขายทอดตลาด แต่แปลกตรงที่บ้านตนนั้นยังไม่ได้ขาย แต่ที่จอดรถของเจ้าของโครงการขายแล้ว ซึ่งตนก็ไม่ได้เงิน แถมเจ้าของโครงการก็ยังใช้ที่จอดรถปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
