เมื่อพูดถึงว่านหางจระเข้ใช่ว่าจะมีแต่สรรพคุณอันเป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมายเพียงอย่างเดียวนะคะ แต่ความจริงแล้วสมุนไพรชนิดนี้มันก็มีโทษแฝงอยู่บ้างเหมือนกัน หากไม่รู้จักวิธีการใช้และวิธีรับประทานที่ถูกต้องซึ่งวันนี้เนรัญชลาจะขอหยิบยกเอาแต่เฉพาะข้อควรระมัดระวังในการใช้มาบอกกล่าวก็แล้วกันนะคะ เพื่อที่เราจะได้ทำน้ำว่านหางจระเข้รับประทานกันได้อย่างถูกวิธีและปลอดภัยค่ะ
เนื่องจากในยางสีเหลืองของว่านหางจระเข้จะมีสาร "อะโลอิน"
ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยระบาย และหากเรารับประทานเข้าไปในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจจะทำให้ลำไส้เกิดการเกร็งตัว จนมีอาการปวดท้อง และท้องเสียได้ ดังนั้นสตรีมีครรภ์และผู้ที่ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับลำไส้ จึงควรใช้ด้วยความระมัดระวัง
นอกจากนี้ในว่านหางจระเข้ยังมีสรรพคุณในการช่วยลดน้ำตาลในหลอดเลือด ดังนั้นในผู้ป่วยโรคเบาหวานที่รับประทานยาลดเบาหวาน หรือฉีดยาอินซูลิน ก็ควรจะรับประทานว่านหางจระเข้ด้วยความระมัดระวังเช่นกัน เพราะหากน้ำตาลลดต่ำมากเกินไปก็จะทำให้เกิดอาการวูบจนเกิดอันตรายได้ และวันนี้ที่นี่ดอทคอม จะพาไปดูวิธีการทำน้ำว่านหางจระเข้า จาก กินดี อยู่ดี By เนรัญชลา ที่ถูกต้องและปลอดภัยมาฝากทุกท่านกันค่ะ
วัตถุดิบและเครื่องปรุงมีดังนี้...
1. ว่านหางจระเข้พันธุ์บาบาเดนชิส 4 ใบ
2. ใบเตย 50 กรัม
3. น้ำตาลทรายขาว 150 กรัม
4. น้ำเปล่า 2.5 ลิตร
5. กลิ่นมะลิ 1/4 ช.ช.
วิธีทำ
1. ปอกเปลือกว่านหางจระเข้ออกให้หมด หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเต๋าขนาดประมาณครึ่งเซ็นติเมตร จะได้วุ้นเนื้อว่านน้ำหนักรวมเมือกประมาณ 1 กิโลกรัม อันที่จริงใช้ได้ทุกพันธุ์นะคะ แต่พันธุ์บาบาเดนชิสใบมันจะใหญ่ เนื้อเยอะค่ะ แค่สี่ใบก็ได้เนื้อวุ้นเป็นกิโลแล้ว
2. นำไปวุ้นเนื้อว่านไปล้างน้ำให้สะอาดเพื่อเอาเมือกและยางออก 2-3 น้ำ จากนั้นกรองด้วยกระชอนพักไว้
3. นำน้ำเปล่าใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด นำวุ้นเนื้อว่านใส่ลงไป พอเดือดอีกครั้งจึงปิดไฟ แล้วช้อนเอาเนื้อว่านขึ้นมาพักไว้ในกระชอน ขั้นตอนนี้จะช่วยดับความเหม็นเขียวของว่าน ทำให้ดื่มน้ำว่านได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยล้างยางที่ตกค้างซึ่งอาจทำให้ท้องเสียได้ออกไป
4. นำน้ำเปล่า 2.5 ลิตรใส่หม้อตั้งไฟ จากนั้นหั่นใบเตยขนาดประมาณ 1 เซ็นติเมตรใส่ลงไปให้หมด ปิดฝาต้มให้เดือด หลังจากเดือดให้ทิ้งไว้ 3 นาทีจึงใช้ตะแกรงช้อนเอาแต่ใบเตยทิ้ง
5. ใส่วุ้นเนื้อว่านลงไป ตามด้วยน้ำตาลทรายและกลิ่นมะลิ คนให้เข้ากันพอเดือดอีกครั้งจึงยกลง ตั้งทิ้งไว้ให้คลายความร้อน แล้วเทใส่ขวดนำไปแช่ตู้เย็น เก็บไว้รับประทานได้นานอย่างน้อย 3 วัน
โดย... เนรัญชลา https://www.facebook.com/kindee.yoodee.bynarunchala/
เนื่องจากในยางสีเหลืองของว่านหางจระเข้จะมีสาร "อะโลอิน"
ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยระบาย และหากเรารับประทานเข้าไปในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจจะทำให้ลำไส้เกิดการเกร็งตัว จนมีอาการปวดท้อง และท้องเสียได้ ดังนั้นสตรีมีครรภ์และผู้ที่ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับลำไส้ จึงควรใช้ด้วยความระมัดระวัง
นอกจากนี้ในว่านหางจระเข้ยังมีสรรพคุณในการช่วยลดน้ำตาลในหลอดเลือด ดังนั้นในผู้ป่วยโรคเบาหวานที่รับประทานยาลดเบาหวาน หรือฉีดยาอินซูลิน ก็ควรจะรับประทานว่านหางจระเข้ด้วยความระมัดระวังเช่นกัน เพราะหากน้ำตาลลดต่ำมากเกินไปก็จะทำให้เกิดอาการวูบจนเกิดอันตรายได้ และวันนี้ที่นี่ดอทคอม จะพาไปดูวิธีการทำน้ำว่านหางจระเข้า จาก กินดี อยู่ดี By เนรัญชลา ที่ถูกต้องและปลอดภัยมาฝากทุกท่านกันค่ะ
วัตถุดิบและเครื่องปรุงมีดังนี้...
1. ว่านหางจระเข้พันธุ์บาบาเดนชิส 4 ใบ
2. ใบเตย 50 กรัม
3. น้ำตาลทรายขาว 150 กรัม
4. น้ำเปล่า 2.5 ลิตร
5. กลิ่นมะลิ 1/4 ช.ช.
วิธีทำ
1. ปอกเปลือกว่านหางจระเข้ออกให้หมด หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเต๋าขนาดประมาณครึ่งเซ็นติเมตร จะได้วุ้นเนื้อว่านน้ำหนักรวมเมือกประมาณ 1 กิโลกรัม อันที่จริงใช้ได้ทุกพันธุ์นะคะ แต่พันธุ์บาบาเดนชิสใบมันจะใหญ่ เนื้อเยอะค่ะ แค่สี่ใบก็ได้เนื้อวุ้นเป็นกิโลแล้ว
2. นำไปวุ้นเนื้อว่านไปล้างน้ำให้สะอาดเพื่อเอาเมือกและยางออก 2-3 น้ำ จากนั้นกรองด้วยกระชอนพักไว้
3. นำน้ำเปล่าใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด นำวุ้นเนื้อว่านใส่ลงไป พอเดือดอีกครั้งจึงปิดไฟ แล้วช้อนเอาเนื้อว่านขึ้นมาพักไว้ในกระชอน ขั้นตอนนี้จะช่วยดับความเหม็นเขียวของว่าน ทำให้ดื่มน้ำว่านได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยล้างยางที่ตกค้างซึ่งอาจทำให้ท้องเสียได้ออกไป
4. นำน้ำเปล่า 2.5 ลิตรใส่หม้อตั้งไฟ จากนั้นหั่นใบเตยขนาดประมาณ 1 เซ็นติเมตรใส่ลงไปให้หมด ปิดฝาต้มให้เดือด หลังจากเดือดให้ทิ้งไว้ 3 นาทีจึงใช้ตะแกรงช้อนเอาแต่ใบเตยทิ้ง
5. ใส่วุ้นเนื้อว่านลงไป ตามด้วยน้ำตาลทรายและกลิ่นมะลิ คนให้เข้ากันพอเดือดอีกครั้งจึงยกลง ตั้งทิ้งไว้ให้คลายความร้อน แล้วเทใส่ขวดนำไปแช่ตู้เย็น เก็บไว้รับประทานได้นานอย่างน้อย 3 วัน
โดย... เนรัญชลา https://www.facebook.com/kindee.yoodee.bynarunchala/