โชยุถูกขนานนามว่าเป็นรสชาติแห่งญี่ปุ่นทั้งยังอัดแน่นด้วยสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าไวน์แดงถึง 10 เท่าและมีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินซีถึง 150 เท่า จึงสันนิษฐานว่าโชยุอาจช่วยชะลอโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจความเสื่อมของระบบประสาท ชะลอวัยต้านมะเร็งได้ ทว่าซอสนี้มีรสเค็มและโซเดียมสูงจึงควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม
การใช้โชยุเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพสูงสุดและไม่เสียรสชาตินั้น ทำได้โดยเติมโชยุในช่วงเวลา 2 - 3 นาทีสุดท้ายของการปรุงโดยเฉพาะในกรณีที่อาหารต้องผ่านความร้อนเพราะโชยุมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบจากกระบวนการหมัก หากปรุงผ่านความร้อนหรือปรุงอาหารทิ้งไว้นาน แอลกอฮอล์เหล่านี้จะระเหยไป ทำให้สัมผัสรสชาติล้ำลึกของโชยุได้น้อยลงและหลังจากใช้โชยุเสร็จทุกครั้งควรปิดฝาขวดให้สนิท นำเข้าตู้เย็น เพื่อป้องกันรสชาติเปลี่ยน
เมนูข้าวหน้าปลาซาบะย่างโชยุกับผักดองโชยุโฮมเมดนี้ ใช้วิธีการปรุงเพื่อรักษารสชาติและประโยชน์ของโชยุไว้ให้ได้มากที่สุดเพราะปรับจากซอสเทอริยากิท่วั ไปมาประยุกต์ทำซอสอย่างง่ายๆ เพียงผสมโชยุกับน้ำผึ้งคนให้เข้ากันโดยไม่ผ่านความร้อน แล้วราดลงบนปลาที่ย่างจนสุกได้ที่ ได้รสอร่อยไม่แพ้ต้นตำรับ ส่วนผักดองนี้เป็นผักดองกับน้ำส้มสายชู น้ำตาล และโชยุ ปรุงง่ายๆ ได้รสเปรี้ยว เค็ม หวาน ใช้เสิร์ฟเป็นของเคียงเพื่อเพิ่มรสชาติอาหารให้อร่อยยิ่งขึ้น
ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
ปลาซาบะแล่ตามยาว 2 ชิ้น
โชยุ 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
ข้าวสวยญี่ปุ่น 2 ถ้วย
ใบโอบะสำหรับตกแต่ง
ผักดองโชยุตามชอบ
วิธีทำ
1. ล้างชิ้นปลาให้สะอาดซับชิ้นปลาให้แห้งสนิทใช้แหนบดึงก้างปลาออกจนหมด กรีดบั้งหนังปลาให้สวยงาม นำไปย่างบนเตาถ่านด้วยไฟอ่อนค่อนไฟกลาง โดยวางด้านหนังลงก่อน ย่าง 10 นาที จึงพลิกกลับอีกด้านย่างต่ออีก 10 นาที คีบปลาใส่จาน พักไว้
2. ผสมโชยุกับน้ำผึ้ง คนให้เข้ากัน แล้วนำส่วนผสมราดลงบนตัวปลา เสิร์ฟเคียงผักดองโชยุ
ส่วนผสมผักดองโชยุ
กะหล่ำปลีหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม ลวกสุกพักให้เย็นแล้วบีบน้ำออกจนหมาด 30 กรัม
แครอตปอกเปลือกหั่นแบบฮังเกสึคิริบางๆ 25 กรัม
หัวผักกาดขาวญี่ปุ่นปอกเปลือกหั่นแบบฮังเกสึคิริ หนา 5 มม. 25 กรัม
แตงกวาญี่ปุ่นหั่นแฉลบ 25 กรัม
โชยุ 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ ½ ช้อนชา
น้ำส้มสายชู ½ ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา
น้ำเปล่า 4 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
ใส่ผักทุกชนิดลงในภาชนะ เติมเครื่องปรุงรส ใช้มือเคล้าเบา ๆ เติมน้ำ ตักใส่ถุงซิปล็อกรีดอากาศออกให้หมดก่อนปิดปากถุงวางถุงผักลงในภาชนะสะอาด ใช้จานซ้อนกันหลาย ๆ ชั้นทับไว้ด้านบน หมักทิ้งไว้ 3 - 6ชั่วโมง พร้อมรับประทาน
ที่มา https://plus.google.com/+KanokonPanyabun/posts/LMafHUEDHAY