เตือนคนไทย น้ำประปาเค็ม ยิ่มต้มยิ่งเค็ม ดื่มไม่ได้

  จากกรณีที่ตอนนี้บางพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร กำลังประสบกับปัญหา น้ำประปาเค็ม ซึ่งมีผลมาจากการที่น้ำในแม่น้ำ แหล่งน้ำหลายๆแหล่งแห้งขอด ต้องซื้อน้ำขวดมาดื่มกิน เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ซึ่งภายหลังรัฐบาลได้แนะนำให้ต้มน้ำประปาเพื่อลดปัญหาน้ำประปาเค็ม

       ล่าสุด เฟซบุ๊กเพจ Like-aomlife ได้ออกมาให้ความรู้ ว่าแท้จริงแล้ว น้ำประปาเค็มไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการนำไปต้ม เพราะยิ่งต้มก็จะยิ่งเค็ม โดยทางเพจได้ระบุว่า....

        "#น้ำประปาเค็มต้มแล้วยิ่งเค็ม_ดื่มไม่ได้ – แก้ความเข้าใจผิดในช่วงภัยแล้งเมื่อน้ำประปาเค็ม ต้มน้ำไม่ได้ช่วยให้หายเค็ม เป็นความรู้วิทยาศาสตร์ระดับประถม

        สัปดาห์ที่ผานมา aomLIFE นำเสนอเรื่องสถานการณ์น้ำประปาในหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯมีรสเค็ม และเป็นอันตรายต่อสุขภาพสำหรับคนเป็นโรคไต ความดันโลหิต และกลุ่มผู้สูงวัย โดยมีข้อเสนอแนะให้ซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดมาบริโภคไปก่อน จนกว่าจะถึงช่วงกลางปีเมื่อย่างเข้าฤดูฝน และระดับความเค็มในน้ำประปาจะลดลงมาเป็นปกติ

        แต่การซื้อน้ำขวดมาดื่มเป็นเวลาติดต่อกันหลายเดือน เป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน จึงเริ่มมีความเชื่อแปลกๆในการหาวิธีเพื่อทำให้น้ำนั้นไม่เค็มและสามารถบริโภคได้ ซึ่งมีคำแนะนำจากรัฐบาลในการนำน้ำดื่มมาต้มเพื่อให้สามารถบริโภคได้ และทางภาครัฐยังขอความร่วมมือจากประชาชนชาวกรุงเทพฯ ประหยัดน้ำคนละ 1 นาที ซึ่ง 1 คน ก็จะประหยัดน้ำได้ 9 ลิตร และทางภาครัฐเชื่อว่าประชาชนกรุงเทพฯ 10 ล้านคน จะประหยัดน้ำได้ถึง 100 ล้านลิตร

      ในแง่ความเป็นวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษาเกี่ยวกับน้ำ หากเราเอาน้ำไปต้มจะเกิดปฏิกิริยาที่เรียกว่า “การระเหย” ทำให้ปริมาณของน้ำลดลง แต่ความเค็มที่เกิดจากตะกอนของเกลือไม่ได้ระเหยไปด้วย แทนที่จะลดความเค็ม กลับทำให้น้ำมีอัตราความเข้มข้นของเกลือมากขึ้น เพราะปริมาณน้ำลดลงแต่ปริมาณเกลือเท่าเดิม ดังนั้นเมื่อนำน้ำต้มไปดื่ม ก็จะยิ่งเท่ากับได้รับเกลือในปริมาณมากขึ้น เมื่อเทียบกับมวลของน้ำที่บริโภค ซึ่งอาจเป็นอันตรายกับกลุ่มเสี่ยงที่เป็นคนป่วย


       คำแนะนำจาก ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการบริโภคน้ำดื่มที่ถูกต้องก็คือการเอาไปผ่านระบบที่ทำให้เกลือแร่หายไปให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เช่น การกรองด้วยระบบ Reverse osmosis (RO) หรือการกลั่นน้ำ ไม่ใช่การต้มน้ำ ซึ่งในปัจจุบัน เครื่องกรองน้ำที่ติดตั้งในครัวเรือน บางแบรนด์สามารถกระทำกระบวนการดังกล่าวให้น้ำมีคุณภาพและรสชาติใกล้เคียงกับน้ำดื่มบรรจุขวดแล้ว

       อย่างไรก็ตาม ราคาเครื่องกรองน้ำ แบบ RO ค่อนข้างสูง เริ่มต้นที่ราคา 1,000 กว่าบาท ไปถึง 7,000 บาท แตกต่างกันที่จำนวนปริมาณน้ำที่กรองได้ ว่าสามารถกรองได้กี่ลิตร ขนาดความจุของเครื่องกรองน้ำอยู่ที่เท่าใด คุณภาพและชนิดของไส้กรอง และเทคโนโลยีที่เสริมพิเศษไป เช่น การฆ่าเชื้อ ผ่านระบบไฟฟ้า LED เป็นต้น ซึ่งหลายครอบครัวไม่ได้มีกำลังทรัพย์ที่จะซื้อมาใช้ได้ทุกบ้าน

        แต่การต้มน้ำเค็มเพื่อหวังให้ระดับความเค็มในน้ำลดลง ก็ไม่ใช่คำตอบทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องแต่อย่างใด ตอนนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ลำบาก สำหรับบางครอบครัวที่อาศัยอยู่ในเขตที่ระดับน้ำประปามีความเค็มสูงเกินปกติและไม่มีทางเลือก ระหว่างต้องมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น ในการซื้อน้ำขวดมาดื่มทุกวัน หรือต้องทนดื่มน้ำประปาที่มีความเค็มเกินค่ามาตรฐาน จนกว่ารัฐบาลจะแก้ไขปัญหานี้ได้"

        การจะแก้ปัญหา ก็ต้องแก้กันอย่างถูกวิธี หากเรานำน้ำประปาไปต้มแล้วนำมาดื่มกิน ซึ่งนอกจากจะไม่ช่วยให้หายเค็มแล้ว ยังอันตรายต่อผู้ป่วยโรคไตอีกด้วย การให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชนก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันค่ะ

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก Like-aomlife