Home »
Uncategories »
เส้นทางรวย! ทำปลาส้มแดดเดียว ปลาข้าวคั่ว ขายทั้งปลีกส่งสร้างรายได้วันละ 3 – 4 พัน
เส้นทางรวย! ทำปลาส้มแดดเดียว ปลาข้าวคั่ว ขายทั้งปลีกส่งสร้างรายได้วันละ 3 – 4 พัน
วันนี้จะพามาทำความรู้จักกับ ชาวบ้าน 5 หมู่บ้านที่ จ.บุรีรัมย์ กว่า 80
ครัวเรือน หันมายึดอาชีพแปรรูปปลาส้ม แดดเดียว
และปลาข้าวคั่วด้วยสูตรภูมิปัญญาชาวบ้าน
ขายทั้งปลีกและส่งลูกค้าทั้งในและต่างจังหวัด สร้างรายได้ดีวันละ 3 – 4
พันบาท
จากเมื่อก่อนต้องทิ้งถิ่นฐานอพยพไปขายแรงงานต่างจังหวัดมีรายได้ไม่แน่นอน
มาดูกันเลย
เช่น
ปลานิล สวาย ยี่สก และปลาตะเพียน มาแปรรูปเป็นปลาส้ม ปลาแดดเดียว
และปลาข้าวคั่ว ด้วยสูตรแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน เช่น ขั้นตอนการหมักปลาส้ม
ก็จะนำปลาสดที่ซื้อมาล้างให้สะอาดทิ้งไว้สักพักให้เสด็จน้ำ
แล้วนำไปหมักเกลือทิ้งไว้ประมาณ 4 ชั่วโมง
จากนั้นนำข้าวเหนียวที่คลุกเคล้ากับกระเทียมสด กระเทียมดอง
และรสดีเพื่อเพิ่มรสชาติ
ไปเทหมักใส่ปลาที่ผ่านการแช่น้ำเกลือแล้วก็จะได้ปลาส้ม
ส่วนปลาข้าวคั่วหลังแช่น้ำเกลือแล้วก็นำไปคลุกกับข้าวคั่ว
ปลาแดดเดียวก็นำไปตากแดดให้แห้งพอเหมาะ
จากนั้นก็นำไปบรรจุใส่ถุงเพื่อเตรียมส่งขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าทั้งในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์
สุรินทร์ และศรีสะเกษ
โดยหากเป็นปลานิลส้มหรือปลานิลข้าวคั่วจะขายส่งตัวละ 9 บาท ขายปลีกตัวละ
12 บาท ปลาจีนส้มถุงละ 30 บาท ตะเพียนถุงละ 50 บาท
เฉลี่ยชาวบ้านจะมีรายได้จากการแปรรูปปลาส้ม แดดเดียว
และปลาข้าวคั่วขายวันละ 3 – 4 พันบาทต่อครัวเรือน
หักต้นทุนค่าใช้จ่ายแล้วก็จะเหลือวันละ 1 – 2 พันบาท
ซึ่งถือเป็นอาชีพที่มั่นคงสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี
จากเมื่อก่อนหลังเสร็จฤดูทำนาชาวบ้านส่วนใหญ่ก็จะทิ้งถิ่นฐานอพยพไปขายแรงงานต่างจังหวัด
แต่ก็มีรายได้ไม่มั่นคงแน่นอน นางเฉลา พันธุ์แตง อายุ 50 ปี
ชาวบ้านบ้านโคกเพชร บอกว่า
เมื่อก่อนไปทำงานรับจ้างที่กรุงเทพมหานครแต่มีรายได้ไม่แน่นอนทำให้ไม่มีเงินเหลือเก็บ
จึงตัดสินใจกลับมาบ้านก็เห็นชาวบ้านแปรรูปปลาขายมีรายได้
จึงชวนสามีทำทั้งปลาส้ม ปลาแดดเดียว และปลาข้าวคั่ว
ซึ่งสูตรหรือขั้นตอนการทำก็ไม่ยุ่งยากเพราะเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่เคยทำรับประทานก็ดัดแปลงทำขาย
กระทั่งมีลูกค้าขาประจำ แต่ละวันจะทำส่งขาย 200 – 300 กิโลกรัม
ทำให้มีรายได้เฉลี่ยวันละ 3 – 4 พันบาท หักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือ 1 – 2
พันบาท
ถือเป็นอาชีพที่มั่นคงและรายได้เลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี
ขอขอบคุณที่มาจาก : buriramworld.com