แจกสูตรโบราณ ‘การปลาส้มจากปลาตะเพียน’ ทำง่ายอร่อย เด็ดไม่เหมือนใคร

เอาใจคุณพ่อบ้านแม่ปละคนที่กำลังมองหาอาชีพเสริมสร้างรายได้ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้วิธีการทำ “ปลาส้ม” จากปลาตะเพียน สูตรโบราณทำง่ายอร่อยเด็ดไม่เหมือนใคร ส่วนขั้นตอนและวิธีการทำจะเป็นอย่างไร ว่าแล้วไปชมพร้อมๆ กันเลยค่ะ ทำกินก็ได้ทำขายก็รวย

สูตรปลาส้มอีก 1 สูตรที่หากินได้ยากซึ่งก็คือปลาส้มตัว หรือ ปลาส้มปลาตะเพียน ซึ่งเป็นปลาส้มที่ใช้ปลาเป็นตัวตัวโดยไม่มีการสับหรือหั่นให้เป็นชิ้นพอประมาณ
โดยสูตรนี้เป็นสูตรของจังหวัดนครพนมและจะใช้ปลาตะเพียนในการทำเท่านั้นเพราะปลาตะเพียนนั้นมีเนื้อแน่นและอร่อยและเคล็ดลับที่เราจะนำมาเผยกันในวันนี้เป็นเคล็ดลับที่บอกเลยว่าสืบทอดกันมาตั้งแต่รุ่นต่อรุ่นและมีความอร่อยไม่เหมือนที่ไหน

วัตถุดิบ

– ปลาตะเพียน 3 กก.
– ข้าวเหนียวนึ่งสุก 1 ถ้วย
– เกลือ 1 ถ้วย
– กระเทียมโขลก 1 ถ้วย
– น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
– ผงชูรส

ขั้นตอนการทำปลาส้มตัว

ขั้นตอนที่ 1 เริ่มจากเอาปลาตะเพียนมาล้างให้สะอาดโดยการผ่าท้องควักไส้และขอดเกล็ดออกให้หมด

ขั้นตอนที่ 2 ทำการบั้งตัวปลาประมาณ 3 ช่วงจากนั้นใช้มีดทุกปลาให้อ่อนลง
ขั้นตอนที่ 3 เอาเกลือมาทาทั่วๆไปและใส่เกลือเข้าไปในท้องปลากับเหงือกใส่ถาดหรือหม้อและปิดฝาหมักทิ้งไว้ประมาณ 1 คืน

ขั้นตอนที่ 4 เมื่อมาครบแล้วก็นำปลามาล้างให้สะอาดประมาณสัก 4-5 น้ำให้เกลือออกให้หมดจากนั้นก็แช่ปลาไว้ประมาณซัก 3 ชั่วโมงเพื่อให้ปลาหมดความเค็มหรือแช่จนเนื้อปลาขาว
ขั้นตอนที่ 5 และระหว่างรอมาก็หันมาทำข้าวเหนียวนึ่งสุกโดยนำข้าวเหนียวไปแช่น้ำประมาณ 2-3 ชั่วโมงจนข้าวเหนียวบวมน้ำและกรองเอาแต่ข้าวเหนียวเท่านั้นจากนั้นก็เอากระเทียมที่โขลกแล้วเตรียมรอไว้

ขั้นตอนที่ 6 หลังจากที่ล้างตาเสร็จแล้วและเตรียมข้าวของเสร็จแล้วให้นำข้าวเหนียวและกระเทียมมาปรุงโดยใส่น้ำตาล 1 ช้อนชาใส่ผงชูรสจากนั้นก็นำเครื่องปรุงมาใส่ในท้องฟ้าและเหงือกปลาและบีบตัวปลาให้นิ่มๆเพื่อให้ใส่เครื่องในเข้าไปในตัวปลาให้ได้มากที่สุด
ขั้นตอนที่ 7 จากนั้นก็นำมาเรียงใส่กะละมังสแตนเลสไว้ให้เรียบร้อยแล้วหาถาดมาวางไว้บนตัวปลาและใช้ครกทับไว้อีกทีหนึ่งทิ้งไว้ประมาณ 3 วันจากนั้นก็นำมาประกอบอาหารจะเป็นทอดหรือนึ่งก็ได้แล้วแต่ตามความชอบของแต่ละบุคคล

เป็นอย่างไรกันบ้างกับสูตรนี้บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งสูตรที่สามารถทำได้ง่ายๆไม่ยากอย่างที่คิดอาจจะต้องใช้เวลาหลายวันหน่อยในการทำซึ่งถ้าใครหากชอบกินแล้วนั้นลองทำกินดูเองอาจจะได้รสชาติที่ถูกใจและประหยัดราคาอีกด้วยซึ่งถ้าหากใครถูกใจก็อย่าลืมกดไลค์กดแชร์บทความนี้กันด้วยนะคะ
ขอบคุณที่มา : hunsa.siamtodaynews.com