จากกรณีคนร้ายขับรถเก๋งสีขาว ไม่ทราบทะเบียนมาดักซุ่มยิง "น้องสปาย-น้องฟอส" เสียชีวิตคาลานจอดรถ ฝั่งตรงข้ามหน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ หลังเดินทางมาเที่ยวพัทยาฉลองวันเกิดกับเพื่อนรวม 4 คน โดยหลังเกิดเหตุตำรวจภาค 2 ได้ระดมทีมสืบสวนไล่ล่าแก๊งคนร้าย ตั้งปมชู้สาว มีเสี่ยภูเก็ตที่มาติดพันน้องสปายตกเป็นผู้ต้องสงสัย จนนำไปสู่การออกหมายจับ 3 ผู้ต้องหา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่บ้านเลขที่ 98 ม.1 บ้านนาตาล ต.นาตาล อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ ครอบครัวของน้องสปาย หรือ น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ ได้เตรียมสิ่งของเพื่อต้อนรับผู้ที่จะเดินทางมาร่วมพิธีฌาปนกิจศพในช่วงบ่ายวันนี้ โดยมีญาติพี่น้อง เพื่อน และคนรู้จักเดินทางมาร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพจำนวนมาก โดยเวลา 14.00 น. จะเคลื่อนศพน.ส.ปวีณาไปยังเมรุ วัดป่านาตาล ซึ่งเป็นวัดเดียวกันกับที่ทำพิธีฌาปนกิจศพนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือฟอส ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์เดียวกันไปเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา
นางวันเพ็ญ นาเมืองรักษ์ อายุ 41 ปี แม่ของน้องสปาย ที่อยู่ในอาการโศกเศร้า กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตั้งแต่เด็กจนโตน.ส.ปวีณาเป็นคนเลี้ยงง่าย ไม่ดื้อ ไม่ซน แม้ว่าจะเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นก็ไม่เคยประพฤติตัวเสียหาย และเพื่อนฝูงที่คบส่วนใหญ่ก็จะคบกับสาวประเภทสอง และถึงแม้ว่าน.ส.ปวีณาจะมีหน้าตาดี เป็นธิดาท่าคันโท, ธิดาวังสามหมอ และได้รางวัลรองชนะเลิศการประกวดธิดาแพรวา ของจ.กาฬสินธุ์ ก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องคนมาติดพัน
นางวันเพ็ญ กล่าวต่อว่า โดยครอบครัวหวังให้น.ส.ปวีณาได้เรียนสูงๆ จบปริญญา ซึ่งลูกสาวก็พร้อมจะเรียนและได้เลือกเรียนคณะนิติศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี แต่เรียนได้เพียง 1 ปี ก็ต้องหยุดเรียนเพราะต้องการหาเงินมาดูแลครอบครัว ดูแลพ่อแม่ ซึ่งลูกพูดอยู่เสมอว่าอยากให้พ่อแม่สบายไม่อยากให้ลำบาก แต่วันนี้ลูกไม่อยู่แล้ว ครอบครัวก็เหมือนขาดเสาหลักไป ทุกคนยังเสียใจ เรื่องอนาคตยังไม่คิดอะไร คิดไม่ออก ส่วนภาระที่มีตอนนี้คืองวดรถของน.ส.ปวีณาที่ครอบครัวจะต้องรับผิดชอบต่อไป
แม่น้องสปาย กล่าวอีกว่า แรกๆ ก็สงสัยการทำงานของลูกที่มีเงินมากมาย แต่ตัวเองได้ไปพิสูจน์แล้วและเชื่อใจลูกว่าทำอาชีพสุจริต ส่วนเรื่องของนายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน หนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้คุยทางโทรศัพท์และวิดีโอคอลไลน์ ซึ่งนายปัญญามักพูดเสมอว่ารักลูกสาวของตนและอยากดูแล ซึ่งตนก็ยังขอบคุณ แต่เวลานี้อยากจะถามว่ารักแล้วทำไมต้องฆ่า ฆ่าทำไม และทำไมต้องฆ่ากันอย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้ ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้และเสียใจมาก
"ตั้งแต่ไปรับร่างไว้วิญญาณของลูกกลับมาบ้าน ตลอดระยะเวลาเดินทางจากสัตหีบ จ.ชลบุรี มาที่ อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ จะได้ยินเสียงสะอื้นไห้อยู่เป็นระยะๆ และยังคล้ายกับมีคนมาสวมกอดตัวแม่ นอกจากนี้ หลังการตั้งศพบำเพ็ญกุศลช่วงกลางดึกยังได้ยินเสียงสะอื้นไม่หยุด จะทำอะไรก็จะได้ยินเสียงตลอดเวลา จนเวลาตีสาม จึงตัดสินใจเคาะโลงศพบอกลูกให้เข้มแข็ง อย่าร้องไห้ ไม่ได้สอนให้อ่อนแอ เสียงนั้นจึงเงียบไป ขณะที่น้องชายและลูกหลาน บอกว่าเห็นภาพใบหน้าของสปายชุ่มไปด้วยเลือด ญาติพี่น้องเชื่อว่าวิญญาณของน้องสปาย ยังคงอาฆาตและแค้นที่ถูกฆ่า" แม่น้องสปาย กล่าวทั้งน้ำตา
ที่มา : ข่าวสด