เรื่องอาหารการกินเป็นสิ่งที่สาวๆสมัยนี้เริ่มห่างหายที่จะทำเองกันมากขึ้น
เพราะอาหารสำเร็จตามท้องตลาด หรือร้านสะดวกซื้อมีมากมาย แล้วแต่ จะหยิบฉวย
แต่ว่า…เราได้ลืมความสำคัญของชีวิตคู่ไปอย่างหนึ่ง สิ่งที่
ทำให้คู่รักในสมัยโบราณอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า นั่นก้คือ รสชาติของ อาหาร
โดยเฉพาะน้ำพริก ที่จะต้องมีในสำรับเสมอ รสชาติที่อร่อยเป็น
เรื่องล่าสุด
เอกลักษณ์นี่เอง ที่จะผูกมัดใจชาย เอาไวไม่ว่าเค้าจะเดินทางไปไกลแค่ ไหน เมื่อท้องหิวขึ้นมา สิ่งแรกที่จะคิดถึงคือ น้ำพริก ฝีมือภรรยาซักจาน ก็ คงจะดี ครั้งหนึ่งเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว (ตอนขวัญและครอบครัวได้ย้ายที่อยู่ ใหม่) คุณยายยังไม่ค่อยรู้จักเพื่อนบ้านมากนัก ได้ตำน้ำพริกกะปิไปถวาย พระในงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ของเพื่อนบ้านคนหนึ่ง เมื่อได้ถวายพระ แล้ว น้ำพริกนั้นก็นำมาให้เพื่อนบ้านคนอื่นได้รับประทานกัน เมื่อได้ลิ้ม ลองรสชาติแล้ว เพื่อนบ้านคนอื่นต่างติดใจ จนต้องถามเป็นเสียงเดียวกัน ว่าน้ำพริกกะปิถ้วยนี้ ใครเป็นคนตำ ฝีมืออร่อย มากๆ เลยทำให้เพื่อนบ้านได้รู้จักฝีมือการตำน้ำพริกของคุณ ยายว่า ฝีมือตำน้ำพริกกะปิอร่อยมากๆ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ขวัญได้ถามคุณยายว่ามีเคล็ดลับอะไร ถึงทำให้การตำน้ำพริกกะปิอร่อย คุณยายบอกว่า กะปิที่ใช้ต้องเป็นกะปิที่ดี ซึ่งใช้สำหรับตำน้ำพริกเท่านั้น เพราะกะปิตำน้ำพริกจะอร่อยกว่ากะปิที่ใช้ทำแกง เนื่องจากความเค็มจะ น้อยกว่า คุณยายจะมีกะปิอยู่ 2 อย่างคือ กะปิตำน้ำพริก กับกะปิ ที่ทำแกง คุณยายจะสั่งกะปิมาจากญาติๆ ที่อยู่นครศรีธรรมราช ให้ส่งมา ทางไปรษณีย์ เวลาสั่ง จะสั่งทั้งกะปิตำน้ำพริกและกะปิทำแกงมาตุนเอาไว้ ที่บ้าน เตรียมพร้อมสำหรับทำอาหารต่างๆ ตลอดเวลา ไม่เคยขาดมือ ขอ เชิญเพื่อนๆ ไปชิมน้ำพริกกะปิ ฝีมือขวัญแต่เป็นสูตรคุณยายแต่เกันได้เลย ค่ะ
เริ่มต้นขวัญเตรียมวัตถุดิบที่ใช้ในการทำน้ำพริกกะปิ มีดังนี้
1. กะปิ (ต้องเป็นกะปิที่ใช้ตำน้ำพริก จากเมืองนครฯ ของคุณยายที่เอามา) ช้อนโต๊ะ
2. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำตาลปี๊บ 2 ขีด
4. กระเทียมไทย (กลีบเล็กๆ) 1 หัวใหญ่ (ในภาพแค่ 1 หัวมีกลีบมาก เหลือเกิน)
5. หอมแดงหัวใหญ่ๆ 2 หัว
6. พริกขี้หนูสวน ~30 เมล็ด (ขวัญมานั่งนับก่อนคุณยายเอาไปตำ)
7. มะเขือพวง 1 ขีด
8. มะนาว 4 ลูก
9. น้ำปลา 3-4 เหยาะ
10. น้ำอุ่น ~100-200 ซีซี
เมื่อได้วัตถุดิบจนครบแล้ว ขวัญก็เริ่มบรรเลงการตำไปเรื่อยๆ อย่างมี ความสุข
1.ใส่ไปเลยจ้า น้ำตาลปี๊ปตามสมควรนะ
2.ตามด้วยกระเทียม
3.ใส่พริก มะเขือ ตามชอบ
4.การตำ “พริก” และ “มะเขือพวง” ขอให้ตำแบบบุบๆ อย่าให้ละเอียดมากนะค่ะเพราะถ้าละเอียดจะทำให้ตัวน้ำพริกมีรสขมจากพริกแล้วก็มะเขือทำให้เสียรสชาติ
บีบมะนาว
เติมน้ำเปล่า
จากนั้นก็ใส่มะนาวผ่าและบีบลงไป 4 ลูก และน้ำปลา เหยาะลงไป 3-4 เหยาะ อย่าให้เค็มมากเพราะกะปิก็มีความเค็มอยู่แล้ว
และสุดท้ายน้ำอุ่น ~100-200 ซีซี ขวัญจะใส่ไปเป็นลำดับสุดท้าย ก็เป็นอันเสร็จการทำ “น้ำพริกกะปิ”
ลองชิมดูอีกครั้ง ถ้าเพื่อนๆ เห็นว่า อ่อนเปรี้ยว อ่อนหวาน อ่อนเค็ม ก็เติมรสชาติอีกเล็กน้อยจนเป็นที่พอใจ
“น้ำพริกกะปิ” สูตรคุณยาย เสร็จแล้ว หน้าตาดูน่าทานไหมคะ
เพื่อนๆ เตรียมตักข้าวล้อมวงเข้ามาได้เลยค่ะ ตักใส่ถ้วยเล็กๆ เตรียมไว้ทานกับข้าวสวยร้อนๆ และเครื่องเคียงอื่นๆ อาทิ.. ปลาทูแม่กลองทอด วันนี้ไปตลาดเช้าซื้อมาทอด 4 ตัว
แถมมีมะเขือยาวและชะอมชุบไข่ทอด ส่วนผักต้มก็มีหวังว่าทุกคนคงชอบกันนะคะ
เย็นนี้เข้าครัวเตรียมทำเลย
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก samunpraibann
เรื่องล่าสุด
เอกลักษณ์นี่เอง ที่จะผูกมัดใจชาย เอาไวไม่ว่าเค้าจะเดินทางไปไกลแค่ ไหน เมื่อท้องหิวขึ้นมา สิ่งแรกที่จะคิดถึงคือ น้ำพริก ฝีมือภรรยาซักจาน ก็ คงจะดี ครั้งหนึ่งเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว (ตอนขวัญและครอบครัวได้ย้ายที่อยู่ ใหม่) คุณยายยังไม่ค่อยรู้จักเพื่อนบ้านมากนัก ได้ตำน้ำพริกกะปิไปถวาย พระในงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ของเพื่อนบ้านคนหนึ่ง เมื่อได้ถวายพระ แล้ว น้ำพริกนั้นก็นำมาให้เพื่อนบ้านคนอื่นได้รับประทานกัน เมื่อได้ลิ้ม ลองรสชาติแล้ว เพื่อนบ้านคนอื่นต่างติดใจ จนต้องถามเป็นเสียงเดียวกัน ว่าน้ำพริกกะปิถ้วยนี้ ใครเป็นคนตำ ฝีมืออร่อย มากๆ เลยทำให้เพื่อนบ้านได้รู้จักฝีมือการตำน้ำพริกของคุณ ยายว่า ฝีมือตำน้ำพริกกะปิอร่อยมากๆ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ขวัญได้ถามคุณยายว่ามีเคล็ดลับอะไร ถึงทำให้การตำน้ำพริกกะปิอร่อย คุณยายบอกว่า กะปิที่ใช้ต้องเป็นกะปิที่ดี ซึ่งใช้สำหรับตำน้ำพริกเท่านั้น เพราะกะปิตำน้ำพริกจะอร่อยกว่ากะปิที่ใช้ทำแกง เนื่องจากความเค็มจะ น้อยกว่า คุณยายจะมีกะปิอยู่ 2 อย่างคือ กะปิตำน้ำพริก กับกะปิ ที่ทำแกง คุณยายจะสั่งกะปิมาจากญาติๆ ที่อยู่นครศรีธรรมราช ให้ส่งมา ทางไปรษณีย์ เวลาสั่ง จะสั่งทั้งกะปิตำน้ำพริกและกะปิทำแกงมาตุนเอาไว้ ที่บ้าน เตรียมพร้อมสำหรับทำอาหารต่างๆ ตลอดเวลา ไม่เคยขาดมือ ขอ เชิญเพื่อนๆ ไปชิมน้ำพริกกะปิ ฝีมือขวัญแต่เป็นสูตรคุณยายแต่เกันได้เลย ค่ะ
เริ่มต้นขวัญเตรียมวัตถุดิบที่ใช้ในการทำน้ำพริกกะปิ มีดังนี้
1. กะปิ (ต้องเป็นกะปิที่ใช้ตำน้ำพริก จากเมืองนครฯ ของคุณยายที่เอามา) ช้อนโต๊ะ
2. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำตาลปี๊บ 2 ขีด
4. กระเทียมไทย (กลีบเล็กๆ) 1 หัวใหญ่ (ในภาพแค่ 1 หัวมีกลีบมาก เหลือเกิน)
5. หอมแดงหัวใหญ่ๆ 2 หัว
6. พริกขี้หนูสวน ~30 เมล็ด (ขวัญมานั่งนับก่อนคุณยายเอาไปตำ)
7. มะเขือพวง 1 ขีด
8. มะนาว 4 ลูก
9. น้ำปลา 3-4 เหยาะ
10. น้ำอุ่น ~100-200 ซีซี
เมื่อได้วัตถุดิบจนครบแล้ว ขวัญก็เริ่มบรรเลงการตำไปเรื่อยๆ อย่างมี ความสุข
1.ใส่ไปเลยจ้า น้ำตาลปี๊ปตามสมควรนะ
2.ตามด้วยกระเทียม
3.ใส่พริก มะเขือ ตามชอบ
4.การตำ “พริก” และ “มะเขือพวง” ขอให้ตำแบบบุบๆ อย่าให้ละเอียดมากนะค่ะเพราะถ้าละเอียดจะทำให้ตัวน้ำพริกมีรสขมจากพริกแล้วก็มะเขือทำให้เสียรสชาติ
บีบมะนาว
เติมน้ำเปล่า
จากนั้นก็ใส่มะนาวผ่าและบีบลงไป 4 ลูก และน้ำปลา เหยาะลงไป 3-4 เหยาะ อย่าให้เค็มมากเพราะกะปิก็มีความเค็มอยู่แล้ว
และสุดท้ายน้ำอุ่น ~100-200 ซีซี ขวัญจะใส่ไปเป็นลำดับสุดท้าย ก็เป็นอันเสร็จการทำ “น้ำพริกกะปิ”
ลองชิมดูอีกครั้ง ถ้าเพื่อนๆ เห็นว่า อ่อนเปรี้ยว อ่อนหวาน อ่อนเค็ม ก็เติมรสชาติอีกเล็กน้อยจนเป็นที่พอใจ
“น้ำพริกกะปิ” สูตรคุณยาย เสร็จแล้ว หน้าตาดูน่าทานไหมคะ
เพื่อนๆ เตรียมตักข้าวล้อมวงเข้ามาได้เลยค่ะ ตักใส่ถ้วยเล็กๆ เตรียมไว้ทานกับข้าวสวยร้อนๆ และเครื่องเคียงอื่นๆ อาทิ.. ปลาทูแม่กลองทอด วันนี้ไปตลาดเช้าซื้อมาทอด 4 ตัว
แถมมีมะเขือยาวและชะอมชุบไข่ทอด ส่วนผักต้มก็มีหวังว่าทุกคนคงชอบกันนะคะ
เย็นนี้เข้าครัวเตรียมทำเลย
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก samunpraibann