ส่วนผสมกัน
1. กระท้อน 1 ลูกใหญ่
2. มะพร้าวคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ
3. กุ้งแห้งตำ 3 ช้อนโต๊ะ
4. ถั่วลิสงคั่วบุบ 3 ช้อนโต๊ะ
5. พริกแห้งป่น 1 ช้อนชา
6. เกลือสำหรับแช่กระท้อน ประมาณ 2 ช้อนชา
7.น้ำเปล่าสำหรับแช่กระท้อน
ส่วนผสมน้ำตาลเคี่ยว
1. น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
2. น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
3. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
4. กะปิ 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
1.ปอกเปลือกกระท้อนออกให้หนาสักหน่อย พยายามปอกให้ผิวเรียบ แช่น้ำเกลือไว้สักครู่ประมาณ 15 นาที เพื่อไม่ให้ดำ
2.จากนั้นก็บั้งตามแนวตรงของลูก เป็นริ้วห่างกันซัก 1 เซนติเมตร แล้วก็เอาลงแช่ไว้ในกะละมังน้ำเกลืออีกประมาณ 20-30 นาที เพื่ออะไร ?? เพื่อขับความเปรี้ยวออกจากกระท้อน และเพื่อเนื้อกระท้อนจะได้ไม่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล
3.ผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำเปล่า น้ำปลา กะปิ แล้วตั้งไฟอ่อน เคี่ยวให้เหนียว ระหว่างรอน้ำตาลเคี่ยวจนได้ที่ ให้มีความเหนียวหนึบหน่อยๆ นะคะ เราก็มาตำกุ้งแห้งให้พอหยาบ ๆ
4.สำหรับถั่วลิสงคั่ว ใช้สากกะเบือตำแค่พอแหลก เราไม่ต้องการให้มันละเอียด เพราะละเอียดแล้วก็จะไม่ได้เคี้ยวกรุบๆกรับๆ แถมทำให้น้ำทรงเครื่องดูเละเกินไปไม่น่ากิน ..
5.ใช้มือบีบหัวท้ายของลูกกระท้อนเบาๆ แล้วจับบิด ๆ หน่อย ๆ แล้วพักให้สะเด็ดน้ำสักครู่ จัดใส่จาน โรยมะพร้าวคั่ว กุ้งแห้งตำ ถั่วลิสงคั่วบุบ และพริกแห้งป่น ราดน้ำตาลเคี่ยว รับประทานทันที
ถ้ายังไม่รับประทานอย่าเพิ่งราดน้ำ กับใส่เครื่องนะคะ น้ำตาลจะคืนตัวไม่เหนียว ที่สำคัญไม่อร่อยแล้วคะ
***ขณะเคี่ยวน้ำตาลคนให้พอเข้ากัน อย่าคนบ่อย เพราะน้ำตาลจะตกทรายเป็นเม็ด ถ้าน้ำตาลเป็นเม็ดให้บีบน้ำมะนาวใส่เล็กน้อย น้ำตาลจะคืนตัว
วิธีนี้ใช้กับลูกสละได้เหมือนกัน วิธีการเมื่อปอกเปลือกสละ ล้างเสร็จแล้ว สามารถนำมาราดน้ำทรงเครื่องได้เลยคะ
ปอกเปลือกกระท้อนออกให้หนาสักหน่อย พยายามปอกให้ผิวเรียบแช่น้ำเกลือไว้สักครู่ประมาณ 15 นาที เพื่อไม่ให้ดำ
จากนั้นก็บั้งตามแนวตรงของลูก เป็นริ้วห่างกันซัก 1 เซนติเมตร แล้วก็เอาลงแช่ไว้ในกะละมังน้ำเกลืออีกประมาณ 20-30 นาที เพื่ออะไร ?? เพื่อขับความเปรี้ยวออกจากกระท้อน และเพื่อเนื้อกระท้อนจะได้ไม่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลระหว่างนี้ผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำเปล่า แล้วตั้งไฟอ่อน ให้น้ำตาลละลายหมดเติมน้ำปลา ใส่กะปิ จริง ๆ ผสมทีเดียวพร้อมกันทั้ง 3 อย่างก็ได้แล้วค่อยเอาตั้งไฟ เพราะกะปิจะละลายยากคะ แต่พอดีน้ำตาลปี๊บมันแข็งมากเลยตั้งไฟไปก่อนนะคะ
เคี่ยวให้เหนียว จนได้ที่ ให้มีความเหนียวหนึบหน่อยๆ นะคะ
ขณะเคี่ยวน้ำตาลคนให้พอเข้ากัน อย่าคนบ่อย เพราะน้ำตาลจะตกทรายเป็นเม็ด ถ้าน้ำตาลเป็นเม็ดให้บีบน้ำมะนาวใส่เล็กน้อย น้ำตาลจะคืนตัว ระหว่างรอน้ำตาลเคี่ยวจนได้ที่ เราก็มาตำกุ้งแห้งให้พอหยาบ ๆสำหรับถั่วลิสงคั่ว ใช้สากกะเบือตำแค่พอแหลก เราไม่ต้องการให้มันละเอียด เพราะละเอียดแล้วก็จะไม่ได้เคี้ยวกรุบๆกรับๆ แถม ยังจะไปทำให้น้ำทรงเครื่องดูเละเกินไปไม่น่ากิน ส่วนมะพร้าวคั่ว พอดีมีเหลือจากเมี่ยงคำน้ำตาลเคี้ยวได้ที่ เหนียวหนึบ คะใช้มือบีบหัวท้ายของลูกกระท้อนเบาๆ แล้วจับบิด ๆ หน่อย ๆ แล้วพักให้สะเด็ดน้ำสักครู่ จัดใส่จาน โรยกุ้งแห้งตำ โรยถั่วลิสงคั่วบุบ ...โรยมะพร้าวคั่ว และพริกแห้งป่น ราดน้ำตาลเคี่ยว รับประทานทันที
ให้น้ำเชื่อมเข้าเนื้อซะหน่อย เสร็จแล้วคะ เชิญตักชิมกันตามสบายนะคะ
ถ้ายังไม่รับประทานอย่าเพิ่งราดน้ำ กับใส่เครื่องนะคะ น้ำตาลจะคืนตัวไม่เหนียว ที่สำคัญไม่อร่อยแล้วคะ
Cr. สูตรอาหารและภาพ http://lekkathaifood.blogspot.com/2011/06/blog-post_02.html
1. กระท้อน 1 ลูกใหญ่
2. มะพร้าวคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ
3. กุ้งแห้งตำ 3 ช้อนโต๊ะ
4. ถั่วลิสงคั่วบุบ 3 ช้อนโต๊ะ
5. พริกแห้งป่น 1 ช้อนชา
6. เกลือสำหรับแช่กระท้อน ประมาณ 2 ช้อนชา
7.น้ำเปล่าสำหรับแช่กระท้อน
ส่วนผสมน้ำตาลเคี่ยว
1. น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
2. น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
3. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
4. กะปิ 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
1.ปอกเปลือกกระท้อนออกให้หนาสักหน่อย พยายามปอกให้ผิวเรียบ แช่น้ำเกลือไว้สักครู่ประมาณ 15 นาที เพื่อไม่ให้ดำ
2.จากนั้นก็บั้งตามแนวตรงของลูก เป็นริ้วห่างกันซัก 1 เซนติเมตร แล้วก็เอาลงแช่ไว้ในกะละมังน้ำเกลืออีกประมาณ 20-30 นาที เพื่ออะไร ?? เพื่อขับความเปรี้ยวออกจากกระท้อน และเพื่อเนื้อกระท้อนจะได้ไม่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล
3.ผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำเปล่า น้ำปลา กะปิ แล้วตั้งไฟอ่อน เคี่ยวให้เหนียว ระหว่างรอน้ำตาลเคี่ยวจนได้ที่ ให้มีความเหนียวหนึบหน่อยๆ นะคะ เราก็มาตำกุ้งแห้งให้พอหยาบ ๆ
4.สำหรับถั่วลิสงคั่ว ใช้สากกะเบือตำแค่พอแหลก เราไม่ต้องการให้มันละเอียด เพราะละเอียดแล้วก็จะไม่ได้เคี้ยวกรุบๆกรับๆ แถมทำให้น้ำทรงเครื่องดูเละเกินไปไม่น่ากิน ..
5.ใช้มือบีบหัวท้ายของลูกกระท้อนเบาๆ แล้วจับบิด ๆ หน่อย ๆ แล้วพักให้สะเด็ดน้ำสักครู่ จัดใส่จาน โรยมะพร้าวคั่ว กุ้งแห้งตำ ถั่วลิสงคั่วบุบ และพริกแห้งป่น ราดน้ำตาลเคี่ยว รับประทานทันที
ถ้ายังไม่รับประทานอย่าเพิ่งราดน้ำ กับใส่เครื่องนะคะ น้ำตาลจะคืนตัวไม่เหนียว ที่สำคัญไม่อร่อยแล้วคะ
***ขณะเคี่ยวน้ำตาลคนให้พอเข้ากัน อย่าคนบ่อย เพราะน้ำตาลจะตกทรายเป็นเม็ด ถ้าน้ำตาลเป็นเม็ดให้บีบน้ำมะนาวใส่เล็กน้อย น้ำตาลจะคืนตัว
วิธีนี้ใช้กับลูกสละได้เหมือนกัน วิธีการเมื่อปอกเปลือกสละ ล้างเสร็จแล้ว สามารถนำมาราดน้ำทรงเครื่องได้เลยคะ
ปอกเปลือกกระท้อนออกให้หนาสักหน่อย พยายามปอกให้ผิวเรียบแช่น้ำเกลือไว้สักครู่ประมาณ 15 นาที เพื่อไม่ให้ดำ
จากนั้นก็บั้งตามแนวตรงของลูก เป็นริ้วห่างกันซัก 1 เซนติเมตร แล้วก็เอาลงแช่ไว้ในกะละมังน้ำเกลืออีกประมาณ 20-30 นาที เพื่ออะไร ?? เพื่อขับความเปรี้ยวออกจากกระท้อน และเพื่อเนื้อกระท้อนจะได้ไม่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลระหว่างนี้ผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำเปล่า แล้วตั้งไฟอ่อน ให้น้ำตาลละลายหมดเติมน้ำปลา ใส่กะปิ จริง ๆ ผสมทีเดียวพร้อมกันทั้ง 3 อย่างก็ได้แล้วค่อยเอาตั้งไฟ เพราะกะปิจะละลายยากคะ แต่พอดีน้ำตาลปี๊บมันแข็งมากเลยตั้งไฟไปก่อนนะคะ
เคี่ยวให้เหนียว จนได้ที่ ให้มีความเหนียวหนึบหน่อยๆ นะคะ
ขณะเคี่ยวน้ำตาลคนให้พอเข้ากัน อย่าคนบ่อย เพราะน้ำตาลจะตกทรายเป็นเม็ด ถ้าน้ำตาลเป็นเม็ดให้บีบน้ำมะนาวใส่เล็กน้อย น้ำตาลจะคืนตัว ระหว่างรอน้ำตาลเคี่ยวจนได้ที่ เราก็มาตำกุ้งแห้งให้พอหยาบ ๆสำหรับถั่วลิสงคั่ว ใช้สากกะเบือตำแค่พอแหลก เราไม่ต้องการให้มันละเอียด เพราะละเอียดแล้วก็จะไม่ได้เคี้ยวกรุบๆกรับๆ แถม ยังจะไปทำให้น้ำทรงเครื่องดูเละเกินไปไม่น่ากิน ส่วนมะพร้าวคั่ว พอดีมีเหลือจากเมี่ยงคำน้ำตาลเคี้ยวได้ที่ เหนียวหนึบ คะใช้มือบีบหัวท้ายของลูกกระท้อนเบาๆ แล้วจับบิด ๆ หน่อย ๆ แล้วพักให้สะเด็ดน้ำสักครู่ จัดใส่จาน โรยกุ้งแห้งตำ โรยถั่วลิสงคั่วบุบ ...โรยมะพร้าวคั่ว และพริกแห้งป่น ราดน้ำตาลเคี่ยว รับประทานทันที
ให้น้ำเชื่อมเข้าเนื้อซะหน่อย เสร็จแล้วคะ เชิญตักชิมกันตามสบายนะคะ
ถ้ายังไม่รับประทานอย่าเพิ่งราดน้ำ กับใส่เครื่องนะคะ น้ำตาลจะคืนตัวไม่เหนียว ที่สำคัญไม่อร่อยแล้วคะ
Cr. สูตรอาหารและภาพ http://lekkathaifood.blogspot.com/2011/06/blog-post_02.html